โสภณ พรโชคชัย
ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ที่มา: AREA แถลง ฉบับที่ 66/2556: 4 มิถุนายน 2556
แม้สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร จะพยายามออกแบบผังเมืองให้เป็
นประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่เชื่อว่าความพยายามดังกล่
าวนอกจากจะไม่บรรลุผลแล้ว ยังจะส่งผลในทางตรงกันข้ามในพื้นที่ใจกลางเมือง ผังเมืองกำหนดให้สามารถก่อสร้
างได้
พื้นที่สูงสุดเพียง 10 เท่าของขนาดที่ดิน ซึ่งมีเพียงบางพื้นที่
แต่ส่วนใหญ่ก่อสร้างได้ประมาณ 4-8 เท่า ๆ นั้น
หลายแห่งก็ไม่สามารถก่อสร้างที่
อยู่อาศัยรวมได้หากถนนหน้าที่ดิ
นกว้างน้อยกว่า 30 เมตร เป็นต้น ดังนั้นการพัฒนาต่าง ๆ ก็ต้องออกไปสู่นอกเมือง ก็เท่ากับว่าประชากรต้องเดิ
นทางออกไปนอกเมือง การเดินทางเช่นนี้ทำให้เสียค่
าใช้จ่ายในการเดินทาง เวลาในการเดินทาง ความตึงเครียด ฯลฯ ให้เกิดกับบุคคล ครอบครัว และชุมชนโดยรวม
นอกจากนี้การที่ประชากรย้
ายออกนอกเมืองไกล ๆ
ยังทำให้สาธารณูปโภคต่าง ๆ ต้องขยายออกไป เป็นการสูญเสียทรัพยากรของชาติ
สิ้นเปลืองน้ำมันและพลังงานต่าง ๆ การขยายตัวของเมืองในแนวราบก็
ไม่สิ้นสุด ก็เท่ากับความสิ้นเปลืองเกิดขึ้
นอย่างไม่สิ้นสุดเช่นกัน การนำเข้าพลังงานจำนวนและมูลค่
ามหาศาล ก็จะหลีกเลี่ยงไม่พ้น และทำให้ประเทศชาติตกอยู่
ในความเสี่ยงต่อความมั่นคงที่
ไม่อาจพึ่งพาตนเองได้ในด้านพลั
งงาน
การเดินทางเข้าสู่เมืองมาก ๆ ยิ่งก่อให้เกิดมลภาวะอย่างไม่ต้
องสงสัย เช่นนี้แล้ว ผังเมืองจะช่วยลดโลกร้อนได้อย่
างไร จะเร่งสร้างภาวะโลกร้
อนจากการเผาผลาญพลังงานอีกต่
างหาก มลภาวะในที่นี้ประกอบด้
วยมลภาวะทางอากาศจากการใช้น้ำมั
น นอกจากนี้ยังรวมถึงมลภาวะทางเสี
ยงอีกด้วย การที่เมืองขยายอย่างไม่มีที่สิ
้นสุดเพราะผังเมืองไม่ยอมให้ก่
อสร้างในเขตกรุงเทพมหานคร ย่อมทำให้เกิดมลภาวะด้
านขยะกระจัดกระจายตัวมาก ทำให้ประสิทธิภาพการจัดเก็บต่ำลงไปอีก
ในช่วงที่ผ่านมา ประชากรของกรุ
งเทพมหานครเองลดลงตามลำดับ แต่ประชากรในเวลากลางวันกลับเพิ
่มขึ้น เพราะประชาชนต้องเดิ
นทางจากนอกเมืองในพื้นที่ปริ
มณฑล
ที่เสมือนเป็นเมืองพักอาศัย (Bed City) เข้ามาในเมืองมากขึ้น
ถ้าระบบขนส่งมวลชนขยายออกไป ก็จะขยายไม่สิ้นสุด แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มี
ระบบขนส่งมวลชน อย่างน้อยก็ในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า มลภาวะต่าง ๆ ก็ยิ่งกระจายตัว
พื้นที่สีเขี
ยวในเขตรอบนอกของกรุ
งเทพมหานครถูกทำลายลงไปเรื่อย ๆ โดยที่กรุงเทพมหานครขาดการวางผั
งให้มีความหนาแน่น (High Density) แต่ไม่แออัด (Overcrowdedness) จึงทำให้พื้นที่บางนา ที่เคยปลูกข้าวได้ดีที่สุ
ดของประเทศไทย สูญหายไปหมด ทำให้พื้นที่ปลูกส้มบางมด พื้นที่ปลูกทุเรียน นนทบุรี หดหายไป และยังรุกเข้าไปเรือกนาไร่สวนอื
่น ๆ ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร นนทบุรี และนครปฐม
การทำลายพื้นที่สีเขียวชานเมื
องและนอกเมือง ก็เท่ากับเราส่งเสริมให้เกิ
ดภาวะโลกร้อนเพิ่มขึ้น ในระยะเวลานับสิบปีที่ผ่านมา เขตชนบทของปริมณฑล ถูกทำลายไปหลายร้อยตารางกิ
โลเม
ตร หรือราว 200,000 ไร่ พื้นที่รับน้ำ พื้นที่แก้มลิง ก็หดหายไปหมด
เมื่อเกิดอุทกภัย ก็ไม่มีโอกาสที่จะแก้ไขอะไรได้
แม้แต่ปัจจุบันฝนตกลงมาพักใหญ่ น้ำก็ท่วมกรุงเทพมหานครแล้ว
มาตรการต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานครล้วนไม่ได้
ผลในการลดโลกร้อน เป็นเพียงมาตรการปลีกย่อย เช่น การกำหนดให้มีพื้นที่ส่วนโล่
งของที่ดินมาก ๆ ถึงราวหนึ่งในสามของพื้นที่ดิ
นทั้งหมด การกำหนดให้มีพื้นที่ที่น้ำซึ
มผ่านได้ น่าจะเป็นมาตรการกีดกันการพั
ฒนาในเขตเมืองมากกว่าจะส่งเสริ
มให้เกิดความหนาแน่นแต่ไม่แออั
ด ส่วนมาตรการที่ดูคล้ายการส่
งเสริม เช่น การให้โบนัสพัฒนาที่ดิ
นใจกลางเมือง หรือรอบ ๆ สถานีรถไฟฟ้า ก็ได้แค่ "น้ำจิ้ม" "ได้ไม่คุ้มเสีย" ในสายตาของนักพัฒนาที่ดิน ส่วนมาตรการป้องกันน้ำท่วมอย่
างขนานใหญ่และอย่างมีประสิทธิ
ภาพ ก็ไม่ปรากฏชัดเจนในผังเมืองแต่
อย่างใด
การที่ทำให้กรุงเทพมหานครดูโล่งๆ ใจกลางเมืองก็เพื่อให้ลู
กหลานเจ้าของที่ดินรายใหญ่ ๆ ที่จะเก็บที่ดินไว้ได้อีกนานเท่
านาน เพราะประเทศไทยไม่มีภาษีที่ดิ
นและสิ่งปลูกสร้างมา "จี้ก้น" ให้ทำการพัฒนาที่ดิน แต่การทำเช่นนี้ เป็นการซุกปัญหาไว้ใต้พรม เพราะการที่มีการไปผุ
ดโครงการนอกเขตกรุงเทพมหานคร ก็แสดงว่าประชาชนเจ้าของกรุ
งเทพมหานคร ต้องการที่อยู่อาศัย แต่ในเมืองถูกกีดกันไม่
สามารถอยู่อาศัยได้ ก็ต้องไปซื้อบ้านอยู่นอกเมือง และหากในอนาคตนนทบุรีและสมุ
ทรปราการมีการควบคุมเช่น กรุงเทพมหานคร คนกรุงเทพมหานครคงต้องไปซื้อบ้
านไกลถึงฉะเชิงเทรา อยุธยา สุพรรณบุรีหรืออำเภอรอบนอก ๆ ของนครปฐม
การซุกปัญหาอยู่ใต้พรมเช่นนี้
เป็นการขาดความรับผิ
ดชอบในฐานะนักวิชาชีพ อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ การขีดเอาพื้นที่ของชาวบ้
านในเขตรอบนอก เป็นพื้นที่สีเขียว จำกัดการพัฒนาที่ดินของพวกเขา ก็เป็นการแสดงความไม่รับผิ
ดชอบเช่นกัน ถ้าจะกีดกันไม่ให้เจ้าของที่ดิ
นพัฒนา ปล่อยให้เป็นพื้นที่
เกษตรกรรมหรือเขียว ๆ ไว้ ก็ควรเวนคืน หรือจ่ายค่าทดแทนการเสียสิทธิ แทนการใช้อำนาจบาตรใหญ่
ตามกฎหมายผังเมืองอย่
างขาดความรับผิดชอบ เพราะพวกเขาไม่สามารถพัฒนาที่ดิ
นได้ แต่หากข้ามไปฝั่งจังหวัดปริมณฑล กลับสามารถพัฒนาได้เต็มที่
เพราะไม่ได้มีข้อห้ามไว้
ช่วยกันคิดใหม่เดี๋ยวนี้ เพื่อผังเมืองที่ดีของประชาชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น