แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ครม. มีมติจ่ายเงินดำรงชีพผู้ได้รับผลกระทบ 14 ตุลาคม 2516

ที่มา ประชาไท


มติ ครม. จ่ายเงินช่วยเหลือดำรงชีพ เดือนละเจ็ดพัน ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 โดยสิทธิรับเงินชดเชยไม่ตกทอดถึงทายาท โดยรองโฆษก ครม. ระบุเป็นการเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
19 พ.ย. 2556 - เว็บไซต์ของรัฐบาลไทยวันนี้ (19 พ.ย.) รายงานเรื่อง มติ ครม. โดยเรื่องหนึ่งที่มีการพิจารณาคือ คณะรัฐมนตรีมีการพิจารณาเรื่องที่ สมาคมญาติและวีรชน 14 ตุลา 16 ขอให้พิจารณาจ่ายเงินดำรงชีพแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะ รัฐมนตรี คณะที่ 2 (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) ในคราวประชุมครั้งที่ 9/2556 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2556 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ประธานกรรมการเสนอ ดังนี้ 1. เห็นชอบการจ่ายเงินดำรงชีพรายเดือนเป็นครั้งสุดท้ายแก่วีรชน 14 ตุลาคม 16 หรือทายาทของวีรชนและค่าจัดการศพกรณีวีรชน 14 ตุลา 16 ที่เสียชีวิตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ 2. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทำหลักฐานว่าผู้ได้รับผล กระทบฯ ที่ได้รับเงินการช่วยเหลือเป็นเงินดำรงชีพในครั้งนี้ได้รับการเยียวยาที่ เหมาะสมตามหลักมนุษยธรรมแล้ว จะไม่เรียกร้องขอรับเงินช่วยเหลืออื่นใดจากทางราชการอีก ทั้งนี้ งบประมาณสำหรับดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ด้าน ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะจ่ายเงินช่วยเหลือดำรงชีพ เดือนละ 7,000 บาทต่อราย สำหรับผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2549 จนกว่าจะเสียชีวิต และให้จ่ายเงินย้อนหลังให้กับวีรชนย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2555 ที่มีการทบทวนมติเมื่อปี 2549 ตามที่สมาคมญาติและวีรชน 14 ต.ค. 2516 ร้องขอความเป็นธรรม โดยสิทธิผู้ได้รับเงินชดเชย จะไม่ตกทอดไปถึงทายาท
สำหรับวีรชนที่เสียชีวิตเมื่อปี 2552 ซึ่งอยู่ระหว่างการรอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล จะได้รับค่าทำศพรายละ 20,000 บาท ทั้งนี้จะใช้งบประมาณเพื่อดำเนิน 9,410,000 บาท และในปีต่อ ๆ ไปจะใช้งบประมาณ จำนวน 5 ล้านบาทเศษ โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอของบตามความจำเป็น นอกจากนี้ให้จัดทำหลักฐานว่า ผู้ได้รับผลกระทบฯ ที่ได้รับเงินการช่วยเหลือเป็นเงินดำรงชีพในครั้งนี้ได้รับการเยียวยาที่ เหมาะสมตามหลักมนุษยธรรมแล้ว จะไม่เรียกร้องขอรับเงินช่วยเหลืออื่นใดจากทางราชการอีก อย่างไรก็ตามการเยียวยาเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อให้สอดคล้องด้านกับสภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น