นิตยสารไทม์อ้างความเห็นนักวิเคราะห์
ระบุร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่งเรียกเสียงต้านทั้งฝั่งเสื้อเหลือง-เสื้อ
แดง ทักษิณอาจเพียงหยั่งกระแสสังคม ถ้าเสียงค้านดังอื้ออึง
เขาอาจไม่เดินเข้าซอย
ผู้สื่อข่าวไทม์ Dan Kedmey รายงานในกรุงเทพเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ว่า ทั้งฝั่งคนเสื้อเหลือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกรอยัลลิสต์ในเขตเมืองและเป็นพวกชาตินิยม ที่รวมพลังกันภายใต้การนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) รวมทั้งผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ กับฝั่งคนเสื้อแดง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนยากจนในชนบท ที่รวมพลังกันภายใต้การนำของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ต่างคัดค้านการออกร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่เพิ่งผ่านการพิจารณาของสภา ผู้แทนราษฎรในวันที่ 1 พฤศจิกายน
@ ผู้ประท้วงเข้าร่วมการชุมนุมต่อต้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่จัดโดยพรรคประชาธิปัตย์ ที่สถานีรถไฟสามเสน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556
ฝั่งคนเสื้อเหลืองคัดค้านเพราะต้องการให้เอาผิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในข้อหาคอรัปชั่น ฝั่งคนเสื้อแดงคัดค้านเพราะต้องการคืนความยุติธรรมให้แก่เหยื่อเหตุการณ์ สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ซึ่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้สั่งการใช้กำลังทหาร ร่างกฎหมายฉบับนี้จะดับความหวังของประชาชนทั้งสองสีเสื้อ
รายงานระบุว่า การผลักดันร่างกฎหมายที่จะลบล้างความผิดให้แก่ทุกฝ่าย ยกเว้นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นเครื่องมือปิดปากผู้เห็นต่างทางการเมือง เช่นนี้ ยังได้สร้างรอยร้าวขึ้นภายในขบวนการคนเสื้อแดง และระหว่างนปช.กับพรรคเพื่อไทยด้วย
นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธุ์ รองศาสตราจารย์แห่งศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ให้ความเห็นว่า กฎหมายฉบับนี้จะยิ่งตอกย้ำวัฒนธรรมการปล่อยคนผิดลอยนวลในประเทศไทย
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ประเมินว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจไม่เดินหน้าต่อหากเสียงสนับสนุนของประชาชนลดถอยลง ในเรื่องนี้ นายฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า "ทักษิณเป็นคนฉลาดมาก เขากำลังหยั่งกระแสว่าตัวเองจะหาประโยชน์ได้แค่ไหน"
@ ผู้ประท้วงเข้าร่วมการชุมนุม ที่สถานีรถไฟสามเสน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน หลังสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งบรรดาผู้ต่อต้านรัฐบาลมองว่า เป็นการเปิดทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน
รายงานบรรยายว่า ที่ผ่านมา กลุ่มผู้กุมอำนาจในสังคมไทย เคยแสดงบทบาทอยู่ข้างฝั่งคนเสื้อเหลือง แต่มีสัญญาณว่า บทบาทเช่นนั้นกำลังลดน้อยถอยลง แม้กระนั้น นายฐิตินันท์มองว่า หากทักษิณเห็นว่ายังไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสมที่จะเดินหน้ากฎหมายลบล้างความ ผิดแก่ทุกฝ่าย เขาก็อาจถอย แล้วปล่อยให้สถานการณ์หวนกลับไปที่เดิม
รายงานบอกว่า การผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่งเช่นนี้ อาจสั่นคลอนคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยในระยะยาว แต่ในระยะเฉพาะหน้านี้ กระแสต่อต้านทั้งจากฝั่งคนเสื้อเหลืองและคนเสื้อแดง อาจนำไปสู่เหตุการณ์ความไม่สงบรอบใหม่
นายปวิน ให้ความเห็นว่า ความรุนแรงทางการเมืองอาจหวนสู่กรุงเทพในอีกไม่ช้า ในรอบนี้จะเป็นความขัดแย้งหลายฝ่าย เพราะการแยกมิตรแยกศัตรูในแบบก่อนหน้านี้ได้เลือนรางไปหมด
นายฐิตินันท์ คาดการณ์ว่า แนวโน้มเกิดการเผชิญหน้าได้พุ่งสูงขึ้นมาก ฝ่ายต่อต้านทักษิณจะออกมาก่อความวุ่นวายจนรัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศได้ กลายเป็นเหตุจลาจลบนท้องถนน.
ที่มา : Time
ภาพ : AFP
ผู้สื่อข่าวไทม์ Dan Kedmey รายงานในกรุงเทพเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ว่า ทั้งฝั่งคนเสื้อเหลือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกรอยัลลิสต์ในเขตเมืองและเป็นพวกชาตินิยม ที่รวมพลังกันภายใต้การนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) รวมทั้งผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ กับฝั่งคนเสื้อแดง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนยากจนในชนบท ที่รวมพลังกันภายใต้การนำของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ต่างคัดค้านการออกร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่เพิ่งผ่านการพิจารณาของสภา ผู้แทนราษฎรในวันที่ 1 พฤศจิกายน
@ ผู้ประท้วงเข้าร่วมการชุมนุมต่อต้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่จัดโดยพรรคประชาธิปัตย์ ที่สถานีรถไฟสามเสน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556
ฝั่งคนเสื้อเหลืองคัดค้านเพราะต้องการให้เอาผิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในข้อหาคอรัปชั่น ฝั่งคนเสื้อแดงคัดค้านเพราะต้องการคืนความยุติธรรมให้แก่เหยื่อเหตุการณ์ สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ซึ่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้สั่งการใช้กำลังทหาร ร่างกฎหมายฉบับนี้จะดับความหวังของประชาชนทั้งสองสีเสื้อ
รายงานระบุว่า การผลักดันร่างกฎหมายที่จะลบล้างความผิดให้แก่ทุกฝ่าย ยกเว้นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นเครื่องมือปิดปากผู้เห็นต่างทางการเมือง เช่นนี้ ยังได้สร้างรอยร้าวขึ้นภายในขบวนการคนเสื้อแดง และระหว่างนปช.กับพรรคเพื่อไทยด้วย
นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธุ์ รองศาสตราจารย์แห่งศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ให้ความเห็นว่า กฎหมายฉบับนี้จะยิ่งตอกย้ำวัฒนธรรมการปล่อยคนผิดลอยนวลในประเทศไทย
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ประเมินว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจไม่เดินหน้าต่อหากเสียงสนับสนุนของประชาชนลดถอยลง ในเรื่องนี้ นายฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า "ทักษิณเป็นคนฉลาดมาก เขากำลังหยั่งกระแสว่าตัวเองจะหาประโยชน์ได้แค่ไหน"
@ ผู้ประท้วงเข้าร่วมการชุมนุม ที่สถานีรถไฟสามเสน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน หลังสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งบรรดาผู้ต่อต้านรัฐบาลมองว่า เป็นการเปิดทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน
รายงานบรรยายว่า ที่ผ่านมา กลุ่มผู้กุมอำนาจในสังคมไทย เคยแสดงบทบาทอยู่ข้างฝั่งคนเสื้อเหลือง แต่มีสัญญาณว่า บทบาทเช่นนั้นกำลังลดน้อยถอยลง แม้กระนั้น นายฐิตินันท์มองว่า หากทักษิณเห็นว่ายังไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสมที่จะเดินหน้ากฎหมายลบล้างความ ผิดแก่ทุกฝ่าย เขาก็อาจถอย แล้วปล่อยให้สถานการณ์หวนกลับไปที่เดิม
รายงานบอกว่า การผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่งเช่นนี้ อาจสั่นคลอนคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยในระยะยาว แต่ในระยะเฉพาะหน้านี้ กระแสต่อต้านทั้งจากฝั่งคนเสื้อเหลืองและคนเสื้อแดง อาจนำไปสู่เหตุการณ์ความไม่สงบรอบใหม่
นายปวิน ให้ความเห็นว่า ความรุนแรงทางการเมืองอาจหวนสู่กรุงเทพในอีกไม่ช้า ในรอบนี้จะเป็นความขัดแย้งหลายฝ่าย เพราะการแยกมิตรแยกศัตรูในแบบก่อนหน้านี้ได้เลือนรางไปหมด
นายฐิตินันท์ คาดการณ์ว่า แนวโน้มเกิดการเผชิญหน้าได้พุ่งสูงขึ้นมาก ฝ่ายต่อต้านทักษิณจะออกมาก่อความวุ่นวายจนรัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศได้ กลายเป็นเหตุจลาจลบนท้องถนน.
ที่มา : Time
ภาพ : AFP
by
sathitm
2 พฤศจิกายน 2556 เวลา 09:46 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น