การประชุมอาเซียน-อินเดียซัมมิตเริ่มขึ้นแล้วในวันนี้ (21ธ.ค.55)
โดยประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือระหว่างบรรดาผู้นำเป็นประเด็นแรก
ก็คือความมั่นคงในทะเลจีนใต้
ที่ชาติอาเซียนกำลังมีปัญหาพื้นที่พิพาททับซ้อนอยู่กับจีน
การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียนัดพิเศษเริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการที่ กรุงนิวเดลีของอินเดีย โดยมีผู้นำทางการเมืองระดับสูงสุดของทุกชาติสมาชิกอาเซียน รวมถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตลอดจนนายมานโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีอินเดียเข้าร่วม
สำหรับประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือกันตั้งแต่ในช่วงแรกของการประชุม ก็คือการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคง รวมถึงเสรีภาพด้านการเดินเรือในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนกำลังมีปัญหาพื้นที่พิพาททับซ้อนอยู่กับหลายประเทศในอาเซียน โดยผู้นำอินเดียได้ย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย ทางทะเลในบริเวณทะเลจีนใต้ แม้จะไม่มีการระบุถึงจีนในการประชุมครั้งนี้ก็ตาม
อินเดียและชาติอาเซียนยังได้มีมติร่วมกันในการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมือทั้งในด้านเศรษฐกิจการค้า ความมั่นคง และการเมืองให้มากขึ้น โดยนายซิงห์เปิดเผยว่าอินเดียจะลงนามในสนธิสัญญาเขตการค้าเสรี หรือ FTA ฉบับใหม่กับอาเซียนในการประชุมครั้งนี้ ซึ่ง FTA ฉบับดังกล่าวจะเป็นการขยายขอบเขตการค้าเสรีระหว่างสองภูมิภาค จากเดิมที่ครอบคลุมเพียงสินค้า ให้รวมถึงการบริการและการลงทุนด้วย
นอกจากนี้ เหล่าผู้นำของทั้งสองภูมิภาคยังได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการสร้างเส้นทาง คมนาคมเชื่อมต่อระหว่างอินเดียและอาเซียน โดยเฉพาะการสร้างทางหลวงเชื่อมอินเดีย-เมียนมาร์ และไทย ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ในแผนยุทธศาสตร์สร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคของอาเซียน อีกด้วย
ท่าทีที่ใกล้ชิดกันของอินเดียและกลุ่มอาเซียนดังกล่าว ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าอาเซียนกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ นำอินเดียเข้ามาเป็นอีกหนึ่งมหาอำนาจนอกเหนือจากสหรัฐฯ ในการถ่วงดุลจีน และจัดการปัญหาความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ถึงแม้ว่าอินเดียจะยังมีความสัมพันธ์ทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองกับอาเซียน น้อยกว่าจีนก็ตาม
การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียนัดพิเศษเริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการที่ กรุงนิวเดลีของอินเดีย โดยมีผู้นำทางการเมืองระดับสูงสุดของทุกชาติสมาชิกอาเซียน รวมถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตลอดจนนายมานโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีอินเดียเข้าร่วม
สำหรับประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือกันตั้งแต่ในช่วงแรกของการประชุม ก็คือการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคง รวมถึงเสรีภาพด้านการเดินเรือในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนกำลังมีปัญหาพื้นที่พิพาททับซ้อนอยู่กับหลายประเทศในอาเซียน โดยผู้นำอินเดียได้ย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย ทางทะเลในบริเวณทะเลจีนใต้ แม้จะไม่มีการระบุถึงจีนในการประชุมครั้งนี้ก็ตาม
อินเดียและชาติอาเซียนยังได้มีมติร่วมกันในการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมือทั้งในด้านเศรษฐกิจการค้า ความมั่นคง และการเมืองให้มากขึ้น โดยนายซิงห์เปิดเผยว่าอินเดียจะลงนามในสนธิสัญญาเขตการค้าเสรี หรือ FTA ฉบับใหม่กับอาเซียนในการประชุมครั้งนี้ ซึ่ง FTA ฉบับดังกล่าวจะเป็นการขยายขอบเขตการค้าเสรีระหว่างสองภูมิภาค จากเดิมที่ครอบคลุมเพียงสินค้า ให้รวมถึงการบริการและการลงทุนด้วย
นอกจากนี้ เหล่าผู้นำของทั้งสองภูมิภาคยังได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการสร้างเส้นทาง คมนาคมเชื่อมต่อระหว่างอินเดียและอาเซียน โดยเฉพาะการสร้างทางหลวงเชื่อมอินเดีย-เมียนมาร์ และไทย ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ในแผนยุทธศาสตร์สร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคของอาเซียน อีกด้วย
ท่าทีที่ใกล้ชิดกันของอินเดียและกลุ่มอาเซียนดังกล่าว ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าอาเซียนกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ นำอินเดียเข้ามาเป็นอีกหนึ่งมหาอำนาจนอกเหนือจากสหรัฐฯ ในการถ่วงดุลจีน และจัดการปัญหาความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ถึงแม้ว่าอินเดียจะยังมีความสัมพันธ์ทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองกับอาเซียน น้อยกว่าจีนก็ตาม
by
Pannika
21 ธันวาคม 2555 เวลา 10:49 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น