Back Story ประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2555
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ อีกครั้งกับภาพถ่ายปิดผนังร้านอาหารญี่ปุ่นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นภาพพระ ว. วชิรเมธี กำลังฉันเพลและมีข้อความกำกับไว้ว่า "อร่อยจนลืมกลับวัด" พร้อมลายเซ็น แม้จะยืนยันว่าไม่ผิดพระธรรมวินัย แต่ทำให้เกิดข้อสงสัยเรื่องความเหมาะสมและย้อนไปถึงวาทะ "ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน" และ "อย่างมงายในวิทยาศาสตร์" จนเกิดกรณีโลกวัชชะในโลกออนไลน์ ติดตามในแบล็กสตอรี่
อร่อยจนลืมกลับวัด ข้อความที่กำกับใต้ภาพ พร้อมลายเซ็นต์พระมหาวุฒิชัย หรือ พระว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ชื่อดัง ปิดที่ผนังร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของบรรดาพุทธศาสนิกชนในโลกออนไลน์อีกครั้ง แม้พระวอ จะชี้แจงว่า ไม่ผิดพระธรรมวินัยและเป็นข้อความที่ให้กำลังใจลูกศิษย์ แต่มีการตั้งข้อสังเหตุถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะคำว่า อร่อย และลืม ซึ่งเป็นกริยาสะท้อนอาการติดในกาม รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และการขาด สติ กระแสวิพากษ์วิจารณ์วาทะ ของพระ ว. ผ่านโลกออนไลน์เริ่มขึ้น จากการสนทนาธรรมกับพิธีกรชื่อดัง เรื่องอภินิหารของผู้สำเร็จธรรมะขั้นสูง จนถูกกล่าวหาอวดอุตริมนุสธรรม เพราะขัดกับหลักคำสอนเรื่องความเชื่อตามหลักกาลามาสูตร 10
จากวาทะ อย่างมงายในวิทยาศาสตร์ นำมาสู่ ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน ที่พระว.ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ แม้จะมีจุดประสงค์เพื่อสอนให้เห็นถึงคุณค่าของเวลา ที่ต้องมีสติในการดำเนินชีวิต ตามหลักธรรมคำสอนของพุทธองค์ แต่กลับถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมกับช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ก่อนการชุมนุมขับไล่รัฐบาล ช่วงเมษายนและพฤษภาคม 2553
หลักการพูดตามพุทธวจน ซึ่งถือเป็นวาจาไม่มีโทษ และวิญญูชนไม่ติเตือน ประกอบด้วย กล่าวแล้วควรแก่เวลา กล่าวแล้วตามสัจจ์จริง กล่าวแล้วอย่างอ่อนหวาน กล่าวแล้วอย่างประกอบด้วยประโยชน์ และ กล่าวแล้วด้วยเมตตาจิต และลักษณะการพูดของตถาคตอย่าง 1คือ วาจาใด อันจริง อันแท้ ประกอบด้วยประโยชน์ แต่ไม่เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อมเลือกให้เหมาะกาล เพื่อกล่าววาจานั้น ขณะที่ โลกวัชชะ คือ โทษทางโลก หรือ การถูกตำหนิ ติเตียนว่าไม่สมแก่สมณะ ซึ่งหน้าทั้ตักเตือนกันเมื่อการกระทำและแสดงออกไม่เหมาะสม เป็น 1 ในหน้าที่ของพุทธบริษัท 4
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ อีกครั้งกับภาพถ่ายปิดผนังร้านอาหารญี่ปุ่นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นภาพพระ ว. วชิรเมธี กำลังฉันเพลและมีข้อความกำกับไว้ว่า "อร่อยจนลืมกลับวัด" พร้อมลายเซ็น แม้จะยืนยันว่าไม่ผิดพระธรรมวินัย แต่ทำให้เกิดข้อสงสัยเรื่องความเหมาะสมและย้อนไปถึงวาทะ "ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน" และ "อย่างมงายในวิทยาศาสตร์" จนเกิดกรณีโลกวัชชะในโลกออนไลน์ ติดตามในแบล็กสตอรี่
อร่อยจนลืมกลับวัด ข้อความที่กำกับใต้ภาพ พร้อมลายเซ็นต์พระมหาวุฒิชัย หรือ พระว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ชื่อดัง ปิดที่ผนังร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของบรรดาพุทธศาสนิกชนในโลกออนไลน์อีกครั้ง แม้พระวอ จะชี้แจงว่า ไม่ผิดพระธรรมวินัยและเป็นข้อความที่ให้กำลังใจลูกศิษย์ แต่มีการตั้งข้อสังเหตุถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะคำว่า อร่อย และลืม ซึ่งเป็นกริยาสะท้อนอาการติดในกาม รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และการขาด สติ กระแสวิพากษ์วิจารณ์วาทะ ของพระ ว. ผ่านโลกออนไลน์เริ่มขึ้น จากการสนทนาธรรมกับพิธีกรชื่อดัง เรื่องอภินิหารของผู้สำเร็จธรรมะขั้นสูง จนถูกกล่าวหาอวดอุตริมนุสธรรม เพราะขัดกับหลักคำสอนเรื่องความเชื่อตามหลักกาลามาสูตร 10
จากวาทะ อย่างมงายในวิทยาศาสตร์ นำมาสู่ ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน ที่พระว.ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ แม้จะมีจุดประสงค์เพื่อสอนให้เห็นถึงคุณค่าของเวลา ที่ต้องมีสติในการดำเนินชีวิต ตามหลักธรรมคำสอนของพุทธองค์ แต่กลับถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมกับช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ก่อนการชุมนุมขับไล่รัฐบาล ช่วงเมษายนและพฤษภาคม 2553
หลักการพูดตามพุทธวจน ซึ่งถือเป็นวาจาไม่มีโทษ และวิญญูชนไม่ติเตือน ประกอบด้วย กล่าวแล้วควรแก่เวลา กล่าวแล้วตามสัจจ์จริง กล่าวแล้วอย่างอ่อนหวาน กล่าวแล้วอย่างประกอบด้วยประโยชน์ และ กล่าวแล้วด้วยเมตตาจิต และลักษณะการพูดของตถาคตอย่าง 1คือ วาจาใด อันจริง อันแท้ ประกอบด้วยประโยชน์ แต่ไม่เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อมเลือกให้เหมาะกาล เพื่อกล่าววาจานั้น ขณะที่ โลกวัชชะ คือ โทษทางโลก หรือ การถูกตำหนิ ติเตียนว่าไม่สมแก่สมณะ ซึ่งหน้าทั้ตักเตือนกันเมื่อการกระทำและแสดงออกไม่เหมาะสม เป็น 1 ในหน้าที่ของพุทธบริษัท 4
by
Veeraporn
29 ธันวาคม 2555 เวลา 17:28 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น