เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
สื่บเนื่องจากรายงานข่าวตำรวจสหรัฐจับกุมคนไทย 6 คน
ร่วมขบวนการค้าอาวุธข้ามชาติ ซึ่งกระจายตัวอยู่ในแต่ละรัฐ
หลังพบหลักฐานส่งออกยุทโธปกรณ์มาขายยังประเทศไทยกว่า 240 ครั้ง ในช่วงเวลา 3
ปีที่ผ่านมา โดยมีชื่อนายนริศ เลขะกุล อายุ 42 ปี
ซึ่งในรายงานระบุว่าเป็นที่ปรึกษาอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ในสมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่าเป็นคนละคนกัน
และไม่ได้ถูกจับกุมตามที่เป็นข่าว โดยนายนริศ เลขะกุล
ตัวจริงนั้นปัจจุบันมีอายุ 67 ปี
และเป็นอดีตที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.ในสมัยนายพิจิตต รัตตกุล
นายนริศ กล่าวว่า รู้สึกตกใจมากกับข่าวที่ออกมา โดยช่วง
แรกมีการระบุชื่อตน เขียนด้วยอักษรเหมือนกัน
แต่ตนคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องคนชื่อเหมือนมากกว่า
แต่เช้าวันถัดมาบรรดาเพื่อนๆ และญาติต่างโทรศัพท์กันเข้ามาสอบถาม
เมื่อตนตรวจสอบดูก็พบว่าในข่าวระบุเป็นอดีตที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.
จึงคาดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่นอน โดยตนขอยืนยันว่า
ไม่ได้ถูกทางการสหรัฐจับกุม และไม่ได้เดินทางไปสหรัฐนานมากแล้ว นอกจากนี้
ยังเปลี่ยนชื่อมานานกว่า 4 ปีแล้วอีกด้วย
โดยทีแรกตนเกือบจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแล้วว่า
ไม่ได้ถูกจับตามที่เป็นข่าว เป็นการเข้าใจผิด
ด้านนางจันวิภา เลขะกุล ภริยานายนริศ กล่าวว่า ตนและญาติๆ ตกใจมากเช่นกัน
ต้องรีบพากันออกไปซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่าน
จึงพบว่าแม้อักษรที่เขียนเหมือนกัน มีการระบุตำแหน่ง
แต่อายุในข่าวไม่ตรงกับสามี เพราะปัจจุบันสามีอายุ 67 ปี
แต่ในรายงานระบุว่า 42 ปี นอกจากนี้ทางครอบครัวยังได้เปิดแผนภูมิตระกูลอีก
เพื่อหารายชื่อที่อาจคล้ายกับผู้ที่ถูกจับกุม โดยพบเพียงหลานชายที่ชื่อ
"นฤทธิ์" เพิ่งอายุ 30 ปีกว่า เคยไปสหรัฐแต่กลับมานานมาก
และไม่เคยเดินทางไปอีก จึงไม่เกี่ยวข้องกันแน่นอน
นางจันวิภา เล่าว่า หลังจากนายนริศ สามีของตนจบการศึกษาจากจุฬาฯ
และเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโท ที่สหรัฐ เมื่อกลับมาไทยก็ไม่เคยไปอีกเลย
หลายสิบปีแล้ว นายริศ ทำงานเป็นผู้จัดการธนาการกรุงเทพ
และลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว กระทั่งเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาของดร.พิจิตต
รัตตกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กระทั่งหมดวาระ
โดยตนขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยแก้ข่าวให้สามีด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น