คณะรัฐมนตรียังไม่มีมติการทำประชามติ หรือ ประชาเสวนา
โดยให้ไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ด้านร้อยตำรวจเอกเฉลิม ยืนยัน
เป็นไปได้ยากที่รัฐบาลจะได้คะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออก
เสียงประชามติ
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าที่ประชุมยังไม่ได้สรุปว่าจะมีการทำประชามติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เนื่องจากมีขั้นตอนการศึกษาเพื่อชี้แจงรายละเอียด ดังนั้นจึงอยู่ระหว่างการหารือเพื่อเป็นไปตามกระบวนการรัฐบาลคือการประสาน กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา ที่ต้องหารือร่วมกันในส่วนของคณะรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่าไม่ได้ติดขัดในเรื่องใด เพราะจุดยืนของรัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ
ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ หลังจากลาป่วยในช่วงเช้า ทำให้ไม่ได้เข้าประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับการลงประชามติ โดยระบุว่า ตนไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับการลงประชามติ และ พร้อมจะมีความเห็นตามรัฐบาล แต่มองว่าคะแนนเสียงที่รัฐบาลต้องการมีความเป็นไปได้ยาก โดยยืนยันว่ารัฐบาลต้องการคะแนนเสียงกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง คือ กว่า 24 ล้านเสียง ทั้งนี้หากจะมีความเป็นไปได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการรณรงค์
ทางด้านนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงร่วมกันถึงมติคณะรัฐมนตรี ในการจัดทำประชามติและประชาพิจารณ์เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยได้มีมติให้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาพิจารณาข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้อง กับการทำประชามติ โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะสามารถมีขั้นตอนในการทำประชามติเกิดขึ้นได้ และจะมีการทำเวทีประชาเสวนาเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนถึงรายละเอียดต่างๆ ในการประชามติด้วย
โดยในเบื้องต้น เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นยืนยันแล้ว ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 165 และข้อกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 9 ว่าการผ่านประชามติต้องมีผู้มาใช้สิทธิเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือก ตั้ง คือประมาณ 23 ล้านคน และการผ่านประชามติ คืออาศัยเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ มิใช้เกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างที่บางส่วนในรัฐบาลมีการ ตีความ ซึ่งในอนาคตจะได้มีการทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายต่อไป
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าที่ประชุมยังไม่ได้สรุปว่าจะมีการทำประชามติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เนื่องจากมีขั้นตอนการศึกษาเพื่อชี้แจงรายละเอียด ดังนั้นจึงอยู่ระหว่างการหารือเพื่อเป็นไปตามกระบวนการรัฐบาลคือการประสาน กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา ที่ต้องหารือร่วมกันในส่วนของคณะรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่าไม่ได้ติดขัดในเรื่องใด เพราะจุดยืนของรัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ
ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ หลังจากลาป่วยในช่วงเช้า ทำให้ไม่ได้เข้าประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับการลงประชามติ โดยระบุว่า ตนไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับการลงประชามติ และ พร้อมจะมีความเห็นตามรัฐบาล แต่มองว่าคะแนนเสียงที่รัฐบาลต้องการมีความเป็นไปได้ยาก โดยยืนยันว่ารัฐบาลต้องการคะแนนเสียงกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง คือ กว่า 24 ล้านเสียง ทั้งนี้หากจะมีความเป็นไปได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการรณรงค์
ทางด้านนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงร่วมกันถึงมติคณะรัฐมนตรี ในการจัดทำประชามติและประชาพิจารณ์เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยได้มีมติให้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาพิจารณาข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้อง กับการทำประชามติ โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะสามารถมีขั้นตอนในการทำประชามติเกิดขึ้นได้ และจะมีการทำเวทีประชาเสวนาเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนถึงรายละเอียดต่างๆ ในการประชามติด้วย
โดยในเบื้องต้น เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นยืนยันแล้ว ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 165 และข้อกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 9 ว่าการผ่านประชามติต้องมีผู้มาใช้สิทธิเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือก ตั้ง คือประมาณ 23 ล้านคน และการผ่านประชามติ คืออาศัยเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ มิใช้เกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างที่บางส่วนในรัฐบาลมีการ ตีความ ซึ่งในอนาคตจะได้มีการทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายต่อไป
by
Banchar
18 ธันวาคม 2555 เวลา 17:31 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น