ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากมารอต้อนรับประธานาธิบดีปาเลสไตน์
พร้อมกับตะโกนยกย่องให้เขาเป็นวีรบุรุษ
หลังจากที่เขาสามารถผลักดันให้ปาเลสไตน์ได้รับการเลื่อนสถานะเป็นรัฐอย่าง
เป็นทางการ จากที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายมาห์มุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ เดินทางกลับถึงปาเลสไตน์แล้ว ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวปาเลสไตน์จำนวนมาก โดยประชาชนนับพันคน ได้เดินทางมารวมตัวกันกลางเมืองรามัลลาห์ พร้อมกับโบกธงชาติปาเลสไตน์ และกล่าวตะโกนยกย่องให้นายอับบาสเป็นเหมือนวีรบุรุษ ที่เดินหน้าผลักดัน จนกระทั่งปาเลสไตน์ได้เลื่อนสถานะเป็นรัฐชาติ จากการรับรองโดยเสียงข้างมากจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อ สัปดาห์ก่อน
โดยนายอับบาสได้กล่าวปราศรัยต่อหน้าชาวปาเลสไตน์ พร้อมกับย้ำว่า นี่คือการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ ซึ่งใช้เวลาในการดำเนินการมาเนิ่นนาน แต่สุดท้ายปาเลสไตน์ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้กลุ่มองค์การบริหารปาเลสไตน์ หรือ PA ซึ่งปัจจุบันคือคณะทำงานที่บริหารจัดการกิจการภายในเขตเวสต์ แบงค์ กับกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซา หันหน้ามาสร้างความปรองดอง เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน หลังจากที่ผ่านมา ทั้งสองกลุ่มมีความขัดแย้งกันอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของอิสราเอลก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่า นับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป อิสราเอลจะระงับการจ่ายภาษีให้กับองค์การบริหารปาเลสไตน์ หรือ PA ซึ่งปัจจุบันคือคณะทำงานที่บริหารจัดการกิจการภายในเขตเวสต์ แบงค์ โดยภาษีดังกล่าว คิดเป็นมูลค่ากว่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,680 ล้านบาท
ขณะนี้ ทางการอิสราเอลรับหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีในเขตเวสต์ แบงค์ให้แก่ PA และกลุ่ม PA ก็พึ่งพารายได้ส่วนใหญ่จากภาษีที่เก็บโดยอิสราเอล เนื่องจากมีบริษัทห้างร้านต่างๆ เข้าไปประกอบกิจการในเขตเวสต์ แบงค์เป็นจำนวนมาก ซึ่งการระงับการจ่ายภาษีดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อรายรับของปาเลสไตน์อย่างเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ลงมติรับรองปาเลสไตน์เป็นรัฐผู้สังเกตการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิก ซึ่งหมายถึงการรับรองให้ปาเลสไตน์เป็นรัฐเอกราชอย่างเป็นทางการ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 138 ต่อ 9 เสียง โดยมีเพียงสหรัฐฯ อิสราเอล และประเทศเล็กๆ ที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯเท่านั้นที่คัดค้านการลงมติครั้งนี้
นายมาห์มุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ เดินทางกลับถึงปาเลสไตน์แล้ว ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวปาเลสไตน์จำนวนมาก โดยประชาชนนับพันคน ได้เดินทางมารวมตัวกันกลางเมืองรามัลลาห์ พร้อมกับโบกธงชาติปาเลสไตน์ และกล่าวตะโกนยกย่องให้นายอับบาสเป็นเหมือนวีรบุรุษ ที่เดินหน้าผลักดัน จนกระทั่งปาเลสไตน์ได้เลื่อนสถานะเป็นรัฐชาติ จากการรับรองโดยเสียงข้างมากจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อ สัปดาห์ก่อน
โดยนายอับบาสได้กล่าวปราศรัยต่อหน้าชาวปาเลสไตน์ พร้อมกับย้ำว่า นี่คือการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ ซึ่งใช้เวลาในการดำเนินการมาเนิ่นนาน แต่สุดท้ายปาเลสไตน์ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้กลุ่มองค์การบริหารปาเลสไตน์ หรือ PA ซึ่งปัจจุบันคือคณะทำงานที่บริหารจัดการกิจการภายในเขตเวสต์ แบงค์ กับกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซา หันหน้ามาสร้างความปรองดอง เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน หลังจากที่ผ่านมา ทั้งสองกลุ่มมีความขัดแย้งกันอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของอิสราเอลก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่า นับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป อิสราเอลจะระงับการจ่ายภาษีให้กับองค์การบริหารปาเลสไตน์ หรือ PA ซึ่งปัจจุบันคือคณะทำงานที่บริหารจัดการกิจการภายในเขตเวสต์ แบงค์ โดยภาษีดังกล่าว คิดเป็นมูลค่ากว่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,680 ล้านบาท
ขณะนี้ ทางการอิสราเอลรับหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีในเขตเวสต์ แบงค์ให้แก่ PA และกลุ่ม PA ก็พึ่งพารายได้ส่วนใหญ่จากภาษีที่เก็บโดยอิสราเอล เนื่องจากมีบริษัทห้างร้านต่างๆ เข้าไปประกอบกิจการในเขตเวสต์ แบงค์เป็นจำนวนมาก ซึ่งการระงับการจ่ายภาษีดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อรายรับของปาเลสไตน์อย่างเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ลงมติรับรองปาเลสไตน์เป็นรัฐผู้สังเกตการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิก ซึ่งหมายถึงการรับรองให้ปาเลสไตน์เป็นรัฐเอกราชอย่างเป็นทางการ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 138 ต่อ 9 เสียง โดยมีเพียงสหรัฐฯ อิสราเอล และประเทศเล็กๆ ที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯเท่านั้นที่คัดค้านการลงมติครั้งนี้
by
Sutthiporn
3 ธันวาคม 2555 เวลา 07:08 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น