แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

เปิดตัวตนและแนวคิดดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่ากทม.เบอร์4วิพากษ์นโยบายขายฝันผู้สมัครตัวเต็ง

ที่มา Thai E-News



ที่มา บล็อก www.sopon4.blogspot.com

พฤหัสบดีที่ 31 มกราคม 2556
 ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 แถลงประเด็นนโยบาย กทม. ที่พึงทบทวน

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 วิพากษ์แนวคิดด้านนโยบายการพัฒนากรุงเทพมหานครที่มีผู้สมัครนำขึ้นเสนอ แต่ไม่หวังโจมตีใคร เพียงป้องกันการเข้าใจผิดสำหรับประชาชน โดยมีประเด็นดังนี้:

            การเพิ่มพื้นที่สีเขียว  ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครไปเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตรอบนอก ซึ่งไม่มีความจำเป็นมากนัก เพราะในเขตชานเมืองก็มีลักษณะเป็นพื้นที่สีเขียวอยู่แล้ว และในหมู่บ้านจัดสรรก็จัดพื้นที่สีเขียวอยู่พอสมควร  แต่ที่ไปทำในเขตชานเมืองเพราะหาที่ดินได้ง่าย  ประเด็นสำคัญของพื้นที่สีเขียวก็คือในใจกลางเมืองมีความขาดแคลนเป็นอย่างยิ่งสร้างความตึงเครียดแก่ประชากรที่อาศัยและทำงานอยู่ใจกลางเมืองนับล้านๆ คน เป็นอย่างยิ่ง  ปกติ กทม. ก็จะขอ เช่า หรือซื้อที่ดินเพื่อการทำสวนสาธารณะตามแผนปกติอยู่แล้ว

            ดร.โสภณ พรโชคชัย เสนอแนวทางการสร้างพื้นที่สีเขียวเพิ่มเติมด้วยการอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยในเขตใจกลางเมืองได้อนุญาต ให้ก่อสร้างประมาณ 5-10 เท่าของขนาดที่ดิน เช่น ที่ดินแปลงหนึ่งขนาด 1,000 ตารางวา หรือ 4,000 ตารางเมตร ก็สร้างได้ประมาณ 20,000 – 40,000 ตารางเมตร  แต่หาก กทม. ออกระเบียบให้สามารถสร้างได้มากกว่านั้น เช่น 15 เท่า แต่ให้เว้นพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อประชาชนได้ใช้ร่วมกัน ก็จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวใจ กลางเมืองได้อีกมหาศาล นอกจากนี้ในหมู่บ้านจัดสรรต่าง ๆ ที่มักมีพื้นที่สีเขียวประมาณ 10-15% ของที่ดิน ก็อาจได้รับการส่งเสริมหรืองดเว้นภาษีหากเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็น 25-40% เป็นต้น  ข้อเสนอนี้จึงเป็นยุทธศาสตร์นโยบายที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์และทำได้จริง

            การจัดแผงตลาดโบ๊เบ๊  สิ่งที่พึงเข้าใจเกี่ยวกับตลาดโบ๊เบ๊ลึก ๆ แล้วก็คือชาวตลาดไม่ต้องการให้ทางราชการเข้ามาจัดระเบียบใหม่ เพราะอาจกระทบการค้า  สำหรับคนภายนอกอาจมองเห็นความรกรุงรัง ดุสภาพคล้ายไม่เป็นระเบียบ  แต่ลักษณะเช่นนี้คือธรรมชาติของตลาดโบ๊เบ๊  ข้อเสนอของบางท่านที่จะเพิ่มพื้นที่ขายให้กับตลาดด้วยการใช้พื้นที่คลองผดุงกรุงเกษม เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะคลองนี้เป็นคลองขนาดใหญ่ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร จะทำให้คลองตื้นเขินได้ด้วย

            ในสมัยที่ ดร.โสภณ พรโชคชัย เรียนอยู่โรงเรียนเทพศิรินทร์ เมื่อปี พ.ศ.2517 ก็มีการรื้อถอนเรือที่จอดระเกะระกะในคลองผดุงกรุงเกษมและคลองมหานาคมาครั้งหนึ่งแล้ว  ข้อเสนอที่ ดร.โสภณ นำเสนอก็คือ การปิดถนนกรุงเกษม ช่วงตั้งแต่สะพานกษัตริย์ศึก (ยศเส) ถึงถนนดำรงรักษ์ระยะทาง 600 เมตร เพื่อเปิดให้ค้าขายในยามค่ำคืนตั้งแต่เวลา 20:00 – 05:00 น.  แล้วจัดระเบียบแผงที่มาขายของของกลุ่มแม่ค้าในช่วงตลาดเช้าและตลาดกลางวันเสียใหม่

            การเปิดสวนสาธารณะ 24 ชั่วโมง กรณีนี้อาจเป็นไปไม่ได้เพราะต้นไม้ใบหญ้าในสวนควรได้พักในยามค่ำคืนบ้าง และทำการบำรุงรักษาสวนสาธารณะในเวลาค่ำคืน  หากเปิดไฟสว่างไสวก็จะเป็นการสิ้นเปลือง สัตว์โดยเฉพาะนก กระรอก ฯลฯ ในสวนสาธารณะไม่ได้พักผ่อนเช่นกัน  ปกติกลางคืนต้นไม้จะคายคาร์บอนไดออกไซต์ ไม่เหมาะที่คนจะอยู่ใต้ต้นไม้  ที่สำคัญคงมีคนจำนวนน้อยมากที่คิดจะใช้สวนสาธารณะในเวลา 21:00 – 04:00 ของวันใหม่

            จากประสบการณ์ดูงานนครนิวยอร์ก ลอนดอน และมหานครขนาดใหญ่ทั่วโลกของ ดร.โสภณ พรโชคชัย สวนสาธารณะชั้นนำทั่วโลกก็ไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง    แม้แต่กรณีสนามกอล์ฟในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นกิจกรรมในเชิงพาณิชย์ของอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ ก็เปิดใช้ถึง 20:00 – 21:00 น. เป็นสำคัญ

            ปัญหาเทศกิจกับแม่ค้า  มีการนำเสนอนโยบายให้ “เจ้าหน้าที่เทศกิจ เลิกจับพ่อค้า แม่ค้าที่ขายของบนทางเดินเท้าที่ผิดกฎหมาย โดยจะมีการจัดระเบียบพ่อค้า แม่ค้าให้ถูกต้อง”  กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะอาจกระทบฐานเสียงคนกลุ่มหนึ่ง แต่ก็เป็นปัญหาตำตาที่สร้างความหนักใจให้กับประชาชนในกรุงเทพมหานครเป็นอย่างยิ่ง

            การไม่จัดการการกระทำผิดกฎหมายคงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้  ในการบริหารรัฐกิจ การยึดแต่หลักรัฐศาสตร์โดยขาดการนำพาต่อหลักนิติศาสตร์ ก็จะทำให้เกิด “ลัทธิเอาอย่าง” และกลายเป็นข้ออ้างในการกระทำผิดกฎหมายจนเกิดสภาพทางเท้ามีไว้ขายของ ชาวบ้านต้องเดินลงไปบนถนน กีดขวางการจราจร  และยิ่งผ่อนผันมากก็ยิ่งมีการรุกล้ำนำทางเท้าบนถนนสายต่าง ๆ มาค้าขายเพิ่มขึ้น

            สิ่งที่ควรดำเนินการในเบื้องต้นก็คือการจัดระเบียบและช่วงเวลาการขายสินค้าใหม่ ที่สำคัญ เงินค่าเช่าที่มีราคาสูงถึงประมาณ 100-200 บาทต่อตารางเมตรหรือต่อแผงนั้น ควรลดราคาลง เพื่อช่วยให้ผู้ค้าสามารถลดราคาสินค้าให้กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็นำเงินมาดูแลพื้นที่ รักษาความสะอาดและนำมาพัฒนาท้องถิ่นต่อไปโดยไม่ให้รั่วไหลเข้ากระเป๋าหรือส่งส่วยใคร  และในระยะยาว ควรจัดพื้นที่ค้าขายให้ถูกสุขลักษณะ และสร้างนิสัยการซื้อขายสินค้าที่ไม่ใช่เพียงคำนึงถึงความสะดวกเฉพาะตัว แต่คำนึงถึงส่วนรวม

            ผม ดร.โสภณ พรโชคชัย ขอย้ำว่าการนำเสนอข้อคิดข้างต้นนี้ ไม่ได้หวังโจมตีใคร แต่หวังใจไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิด และนำนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงมานำเสนอ ซึ่งจะทำให้กรุงเทพมหานครเดินไร้ทิศผิดทางต่อไป

 
ติดต่อ ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครหมายเลข 4 ได้ที่ 08.9922.9899 หรือ คุณอัจฉรา 08.6628.2817 อีเมล์: sopon@trebs.ac.th thaiappraisal@gmail.com  เว็บไซต์หาเสียงที่www.sopon4.blogspot.com Facebook: www.facebook.com/dr.sopon4  Twitter:www.twitter.com/Pornchokchai
ติดตามเพิ่มเติมได้ใน www.sopon4.blogspot.com

แถลงข่าวจาก ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น