โดยระบบดังกล่าวให้นักศึกษานำบัตรประจำตัวนักศึกษาหรือบัตรประจำตัว ประชาชนไปลงทะเบียนที่หน้าอาคารกองกิจการนักศึกษา เพื่อตรวจสอบสถานภาพความเป็นนักศึกษา โดยมีคณะกรรมการการเลือกตั้งนักศึกษา เป็นผู้อธิบายวิธีการและขั้นตอนการลงคะแนน
จากนั้นให้นักศึกษาไปลงคะแนนในคูหาเลือกตั้งภายในศูนย์คอมพิวเตอร์ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งปรับเป็นห้องลงคะแนนเสียงเลือกตั้งออนไลน์ โดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ภายในคูหาหลังจากนักศึกษาลงคะแนนแล้ว นักศึกษาจะต้องลงชื่อเพื่อบันทึกเป็นชั่วโมงกิจกรรมของนักศึกษาตามที่ มหาวิทยาลัยกำหนด
ผศ.นิฟาริด ระเด่นอาหมัด รองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนานักศึกษาและวัฒนธรรม ม.อ.วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่า ระบบนี้เริ่มทดลองใช้เมื่อปีที่แล้ว และผลการทดลองประสบความสำเร็จอย่างดี จึงนำมาใช้จริงในการเลือกตั้งปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้ระบบการเลือกตั้งใน รูปแบบออนไลน์
ผศ.นิฟาริด เปิดเผยด้วยว่า ทางมหาวิทยาลัยจะนำการเลือกตั้งในระบบออนไลน์ไปนำเสนอต่อที่ประชุมของกลุ่ม เครือข่ายกิจกรรมนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย เพื่อให้มหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศนำระบบนี้ไปใช้ เนื่องจากเป็นระบบที่สามารถตรวจสอบได้
ผศ.นิฟาริด กล่าวว่า เห็นด้วยถ้าจะนำระบบนี้ไปใช้ในการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศ เนื่องจากระบบการเลือกตั้งออนไลน์ สามารถตรวจสอบได้และไม่สามารถทุจริตได้ แต่ต้องมีการเตรียมความพร้อมแก่ประชาชนเสียก่อน
“ปัจจุบันนี้ระบบนี้สามารถใช้ได้สำหรับเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่และขอนแก่น เป็นต้น” ผศ.นิฟาริด กล่าว
นายวันสุไลมาน เจะแวมาแจ เจ้าหน้าที่กองกิจการนักศึกษา เปิดเผยว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทางองค์การบริหารองค์การนักศึกษาได้เสนอต่อมหาวิทยาลัยให้ใช้ระบบเลือกตั้ง ออนไลน์ เพื่อประหยัดทรัพยากร เนื่องจากแต่ละปีมหาวิทยาลัยต้องพิมพ์บัตรเลือกตั้งประมาณ 8,000 ใบ แต่ปรากฏว่ามีนักศึกษามาใช้สิทธิเลือกตั้งประมาณ 4,000 คน ทำให้สิ้นเปลืองกระดาษ
นายวันสุไลมาน เปิดเผยต่อไปว่า การเลือกตั้งระบบออนไลน์ยังทำให้สามารถทราบผลการเลือกตั้งได้อย่างรวดเร็ว และสามารถตรวจสอบได้ทำให้ยากต่อการทุจริต โดยสามารถตรวจสอบทั้งผลการเลือกตั้งและตรวจสอบสถานภาพของนักศึกษา
นายนูรุดดีน มูลทรัพย์ นักศึกษาชั้นปี 4 คณะวิทยาการสื่อสาร ม.อ.ปัตตานี กล่าวว่า ข้อดีของการใช้ระบบการเลือกตั้งออนไลน์คือ สามารถรับรู้ผลการเลือกตั้งได้อย่างรวดเร็ว และในการลงคะแนนสามารถเห็นรูปภาพของผู้สมัครอย่างชัดเจน ซึ่งต่างจากระบบบัตรเลือกตั้งที่ไม่มีภาพของผู้สมัคร ซึ่งจะเป็นผลเสียกรณีที่นักศึกษาบางคนจำชื่อผู้สมัครไม่ได้แต่จำหน้าตาได้ ส่วนข้อเสียคือ ระบบคอมพิวเตอร์ทุกระบบมีช่องโหว่ต่อการที่จะโดนเจาะฐานข้อมูลได้
“ผมไม่เห็นด้วยหากจะนำระบบการเลือกตั้งออนไลน์ ไปใช้กับการเลือกตั้งของนักการเมือง ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เพราะจะเป็นปัญหาต่อผู้สูงอายุที่ไม่เข้าใจระบบเทคโนโลยี”
“นอกจากนี้ประเทศเราเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ระบบอินเตอร์เน็ตยังเข้าไม่ถึงทุกภาคส่วน ที่สำคัญส่วนใหญ่ผู้ที่มีตำแหน่งสูงๆ มักมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง และการเลือกตั้งมีการแข่งขันกันสูง จึงมีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะจะเจาะระบบคอมพิวเตอร์และแก้ไขข้อมูลการเลือก ตั้งได้” นายนูรุดดีน กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น