ประเทศไทยเริ่มศึกษาโครงการรถไฟ
ความเร็วสูง มาตั้งแต่ปี 2537 ในสมัยรัฐบาลของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร
แม้จะมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลมาหลายสมัย แต่โครงการนี้
ก็เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีความชัดเจนขึ้น
ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า
คนไทยจะได้ใช้บริการเป็นครั้งแรก เริ่มที่สถานีกรุงเทพ - อำเภอภาชี
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อีกไม่นานรอ คนไทยจะได้ใช้รถไฟความเร็วสูง
ที่มีความทันสมัยเช่นเดียวกับต่างประเทศ เพราะในช่วงกลางปีนี้
กระทรวงคมนาคมจะจัดทำผลการประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ
ในเส้นทางรถไฟความเร็วสูงระยะแรก กรุงเทพ-พิษณุโลก
ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางแรก กรุงเทพ-เชียงใหม่
และในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายนนี้
กระทรวงคมนาคมเตรียมจัดนิทรรศการรถไฟความเร็วสูง
เปิดให้ผู้ประกอบการจากต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น ยุโรป จีน และเกาหลีใต้
นำหัวรถจักรและวิวัฒนาการรถไฟความเร็วสูง จัดแสดงที่ประเทศไทย
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการใช้รถไฟความเร็วสูงที่จะเกิดขึ้นใน
อีกไม่เกิน 5 ปีนับจากนี้
โครงการรถไฟความเร็วสูง
ดำเนินการโดยกระทรวงคมนาคม ร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร
หรือ สนข. และการรถไฟแห่งประเทศไทย
โดยออกแบบโครงการรถไฟความเร็วสูงรวมทั้งหมด 4 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ เส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา
เส้นทางกรุงเทพ-หัวหิน และเส้นทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยา
หรือส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงก์ กระจายไปยังทุกภูมิภาคของประเทศ
รวมระยะทางทั้งหมด 2,563 กิโลเมตร ในงบประมาณ 9 แสน 7 หมื่นล้านบาท
ซึ่งเป็นงบประมาณที่รวมอยู่ใน
พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พ.ศ. ...
วงเงิน 2 ล้านล้านบาท
กระทรวงคมนาคมได้ร่างแผนการดำเนินโครงการ
ก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงไว้เป็นช่วง โดยเริ่มที่เส้นทางแรก คือ
กรุงเทพ-เชียงใหม่ ระยะทาง 680 กิโลเมตร โดยเส้นทางนี้มีสถานีรถไฟทั้งหมด
12 สถานี
เริ่มที่สถานีรถไฟความเร็วสูงบางซื่อ,พระนครศรีอยุธยา,บ้านภาชี,
ลพบุรี,นครสวรรค์,พิจิตร,พิษณุโลก,อุตรดิตถ์,เด่นชัย,ลำปาง,ลำพูน
และเชียงใหม่
จากกรุงเทพถึงเชียงใหม่
ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง โดยเส้นทางแรกนี้
ได้แบ่งการก่อสร้างออกเป็น2ช่วง คือ ระยะที่1
จะก่อสร้างโครงการในเส้นทางกรุงเทพ-พิษณุโลก ก่อสร้างได้ในช่วงต้นปี 2557
ระยะที่ 2 จากจังหวัดพิษณุโลก - เชียงใหม่
ซึ่งจะทยอยก่อสร้างโดยไม่ให้ระยะเวลาห่างกันเกิน 2 ปี
เหตุที่ต้องแบ่งโครงการรถไฟความเร็วสูงใน 1
เส้นทางออกเป็นระยะย่อยๆอีก เนื่องจากแต่ละเส้นทางมีอุปสรรคที่แตกต่างกัน
อย่างเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ ระยะทางตั้งแต่กรุงเทพ จนถึงจังหวัดพิษณุโลก
เส้นทางค่อนข้างเป็นเส้นตรง แต่เมื่อถึงจังหวัดพิษณุโลกจนถึงเชียงใหม่
เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับดอยขุนตาล
จังหวัดอุตรดิตถ์
ซึ่งจุดนี้ต้องมีการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ
อย่างเข้มข้นมากกว่าเส้นทางอื่น อาจต้องเจาะอุโมงค์หรือทำทางลอด
เพื่อลดความคดเคี้ยวของเส้นทาง
เพื่อให้รอบรับรางรถไฟความเร็วสูงที่กำหนดรัศมีวงเลี้ยวตามมาตรฐานสากล
ส่วนการวางรางรถไฟความเร็วสูงนั้น
กระทรวงคมนาคมจะวางรางรถไฟความเร็วสูงให้คู่ขนานไปกับรางรถไฟระบบเดิม
เพื่อลดปัญหาด้านการเวนคืนที่ดิน
กระทรวงคมนาคมคาดว่า
ในเส้นทางกรุงเทพ-พิษณุโลก
จะประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้
และจะดำเนินการประกวดราคาได้ในช่วงต้นปี 2557
และเริ่มก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงในปลายปี 2557
คาดว่าคนไทยจะได้ใช้รถไฟความเร็วสูงในเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ได้ในปี 2561
-2562
รถไฟความเร็วสูงเดินทางด้วยความเร็ว
200-300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยรถไฟ1ขบวน ขนส่งผู้โดยสาร 800 คน
เทียบเท่ากับการใช้รถโดยสารประจำทางถึง 20 คัน
หรือเทียบเท่ากับเครื่องบินโบอิ้ง 777 จำนวน 2ลำ หรือเครื่องบินแอร์บัส 320
จำนวน4ลำ คู่แข่งสำคัญของรถไฟความเร็วสูงคือ เครื่องบิน
ทั้งสายการบินปกติและโลว์คอสแอร์ไลน์ ดังนั้น ความเร็วในการเดินทาง
ราคาตั๋วโดยสาร และการเดินทางเชื่อมต่อไปยังเขตเมือง
เป็นจุดแข็งของรถไฟความเร็วสูงจะนำมาใช้ช่วงชิงฐานลูกค้าของเครื่องบินได้
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า
การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสามารถดำเนินการพร้อมกันได้ทั้ง 4 เส้นทาง
โดยเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ เริ่มที่สถานีกลางบางซื่อ มายังอำเภอภาชี
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเส้นทางนี้สามารถก่อสร้างพร้อมกับเส้นทาง
กรุงเทพ-นครราชสีมาได้ โดยสร้างเพิ่มจากอำเภอภาชีมาออกยังนครราชสีมาได้
ส่วนทางฝั่งตะวันออก ใช้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยายมักกะสัน
อ้อมไปทางอำเภอแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา ไปยังเมืองพัทยา
และไปต่อยังจังหวัดระยองได้ ส่วนเส้นทางกรุงเทพ-หัวหิน
เริ่มที่สถานีกลางบางซื่อ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มายังเขตบางกอกน้อย
อ้อมไปฝั่งจังหวัดนครปฐม ถึงหัวหิน
และยังเชื่อมต่อไปถึงเมืองปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลาได้
ส่วนการคัดเลือกรถไฟความเร็วสูงจะใช้ระบบ
International Bidding
เปิดให้ต่างประเทศเสนอเงื่อนไขการลงทุนเข้ามาแข่งขันเสนอราคาได้
โดยรัฐบาลไทยจะคัดเลือกภายใต้พื้นฐานของคุณภาพที่ดีที่สุด ในราคาที่เหมาะสม
ส่วนหน่วยงานที่ดูแลการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงโดยตรง
เบื้องต้นขึ้นตรงกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรหรือ สนข.
และในระยะต่อไปกระทรวงคมนาคมอาจตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา
แต่ใช้บุคลากรเดิมในสังกัดกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดูแล
พลตำรวจเอกวิเชียร พจน์โพธิ์ศรี
ปลัดกระทรวงคมนาคม คาดว่า
รัฐบาลจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
และจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก่อนการพิจารณา
พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2557 ส่วนราคาค่าโดยสารเบื้องต้นประเมินว่า
ในเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ จะอยู่ที่ราคาประมาณ 2,000 บาท
หรือหากคำนวนเป็นกิโลเมตร จะอยู่ที่กิโลเมตรละ 2 บาท 10 สตางค์ถึง 2 บาท 70
สตางค์ รวมเวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
รถไฟความเร็วสูงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
เพราะ5ปีนับจากนี้ คนไทยจะได้ใช้บริการรถไฟความเร็งสูงในเส้นทางระยะสั้น
นั่นคือ กรุงเทพ- ภาชี นอกจากจะเพิ่มความสะดวกสบาย
ความรวดเร็วให้กับผู้ใช้บริการแล้ว
ยังช่วยกระตุ้นการลงทุนจากการก่อสร้างโครงการนี้ได้เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.5
ผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในหลายด้าน
และช่วยเพิ่มศักยภาพให้ประเทศไทยเป็นประเทศเนื้อหอมในสายตานักลงทุนรายใหม่
เพิ่มขึ้น
by
Chitapa
26 มกราคม 2556 เวลา 18:37 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น