ที่มา go6tv
02/02/2013
go6TV - นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ทำหนังสือดีเอสไอ
ให้สอบปมสรรหา "กรณีการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ"
หรือ "ป.ป.ช." ว่่าเจ้าพนักงานฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่
นาย
เรืองไกร ระบุว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบด้วย นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ นายกล้านรงค์
จันทิก นายใจเด็ด พรไชยา นายประสาท พงษ์ศิวาภัย ศาสตราจารย์ภักดี
โพธิศิริ ศาสตราจารย์เมธี ครองแก้ว นายวิชา มหาคุณ นายวิชัย วิวิตเสวี
นางสาวสมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ โดย
ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่ง และมีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึงหกคน
ให้นายกรัฐมนตรีสรรหาบุคคลเพื่อขอความเห็นชอบจากสภาที่ทำหน้าที่นิติบัญญัติ
และนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
หรือดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น
แล้วแต่กรณี
แต่
ปรากฏข้อเท็จจริงว่า คณะกรรมการสรรหาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 246 วรรคสาม
ไปดำเนินการสรรหาบุคคลมาทดแทนเป็นที่เรียบบร้อยแล้ว
และก็ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาและมีการดำเนินการต่อจนเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน
ซึ่งการสรรหาบุคคลมาแทนตำแหน่งที่ว่างนั้น ย่อมขัดหรือแย้งต่อประกาศ คปค.
ฉบับที่ 19 ข้อ 4 จึงไม่อาจนำความตามรัฐธรรมนุญ มาตรา 247 วรรคสาม
มาทำการสรรหาบุคคลอื่นเป็นกรรมการ ป.ป.ช.
แทนชุดปัจจุบันที่ได้รับแต่งตั้งจากคำสั่ง คปค. ฉบับที่ 19 ได้ ดังนั้น
คณะกรรมการสรรหา ซึ่งประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภาผู้แทนราษฎร
และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ย่อมกระทำการสรรหาไปโดยไม่ชอบด้วยประกาศ
คปค. ฉบับที่ 19 ข้อ 4 ดังกล่าว
การกระทำของคณะกรรมการสรรหาจึงอาจเข้าข่ายความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน
ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
เพราะ
เรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับ ป.ป.ช.
ที่อาจมีการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม
และอาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนทั่วไป
จึงต้องร้องมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่อาจร้องต่อ ป.ป.ช.
ให้ตรวจสอบเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนเองได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น