มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน จี้แก้ รธน.2550
แนะปรับโครงสร้างสถาบันทางการเมือง ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ
จะต้องถูกปรับให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย
ชี้หลักการสำคัญคือต้องยอมรับอำนาจนำของสถาบันการเมืองจากระบบเลือกตั้ง
9 ธ.ค. 55 – มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ออกแถลงการณ์เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2555 ข้อเสนอกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ …
9 ธ.ค. 55 – มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ออกแถลงการณ์เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2555 ข้อเสนอกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ …
แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2555
ข้อเสนอกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550
ปมปัญหาของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550
มิใช่เพียงที่มาอันสืบเนื่องจากการรัฐประหารเท่านั้น
หากยังรวมไปถึงการกำหนดโครงสร้างของสถาบันทางการเมืองที่ไม่สอดคล้องกับ
ระบอบประชาธิปไตย
การกล่าวอ้างว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วจะนำไปสู่ความขัดแย้งเป็นส่วน
หนึ่งของความพยายามปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับที่ทั้งไม่ชอบธรรม/ไม่สอดคล้องกับ
ประชาธิปไตยเอาไว้ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนมีความเห็นต่อกรณีดังกล่าว 3 ประการ
ดังต่อไปนี้
ประการแรก ปมปัญหา
การแก้ไขเพื่อให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องไม่จำกัดขอบเขตเอา
ไว้เฉพาะเพียงความขัดแย้ง “ทางการเมือง/เฉพาะหน้า/ระหว่างสี” เท่านั้น
เพราะจะทำให้การพิจารณา
รัฐธรรมนูญวางอยู่บนปมขัดแย้งทางการเมืองและอาจนำไปสู่การต่อต้านโดยฝ่ายใด
ฝ่ายหนึ่งหรือหลายฝ่าย และอาจจะได้รัฐธรรมนูญที่
ไม่ช่วยในการจัดความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่เอื้อต่อการบรรลุเป้าหมายที่ดีงาม
อื่นๆ
ในบริบทของสังคมไทยและสังคมโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเท่าที่ควร
ในด้านหนึ่ง
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีปัญหาอย่างสำคัญทั้งในแง่ของความชอบธรรมของการ
กำเนิดขึ้น และทั้งในด้านโครงสร้างขององค์กรและสถาบันต่างๆ
ที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขปรับปรุง
ขณะเดียวกันสังคมไทยก็มีปัญหาเชิงโครงสร้างอีกหลายประการที่เป็นปัจจัยสำคัญ
ของความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำของรายได้และทรัพย์สิน
การรวมศูนย์อำนาจรัฐ
วัฒนธรรมแห่งชาติที่เป็นรากฐานของความไม่เสมอภาคทางสังคม ฯลฯ ดังนั้น
รัฐธรรมนูญจึงควรเป็นกรอบกติกาในการต่อรองระหว่างคนกลุ่มต่างๆ
และการค้ำประกันตลอดจนการวางขอบเขตแห่งสิทธิและเสรีภาพของปัจเจกบุคคล
ไม่ใช่จำกัดอยู่แต่เฉพาะการกำหนดโครงสร้างสถาบันการเมืองเท่านั้น ทั้งนี้
จะต้องพิจารณารัฐธรรมนูญในฐานะที่เป็นเครื่องมือในการวางกฎเกณฑ์ที่บุคคลและ
กลุ่มสังคมแต่ละฝ่ายสามารถต่อรองและแข่งขันกันได้อย่างกว้างขวางและเป็นธรรม
ที่สุด
ประการที่สอง ประเด็นในการพิจารณาแก้ไข
ประเด็นแรก โครงสร้างสถาบันทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร
นิติบัญญัติ และตุลาการ จะต้องถูกปรับให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย
โดยมีหลักการสำคัญคือต้องยอมรับอำนาจนำของสถาบันการเมืองจากระบบเลือกตั้ง
แต่จะต้องมีกระบวนการตรวจสอบและควบคุมการใช้อำนาจทางการเมืองจากประชาชนและ
องค์กรอิสระ ทั้งนี้
องค์กรอิสระจะต้องปรับโครงสร้างให้มีความเชื่อมโยงและมีความรับผิดชอบ
(accountability) ต่อประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ของตน
เพื่อไม่ให้เกิดการใช้อำนาจไปในทางที่ไม่เป็นธรรมและเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะ
คนบางกลุ่ม
ประเด็นที่สอง
การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและชุมชน
ต้องยอมรับสิทธิในการปกครองของท้องถิ่นและชุมชนในรูปแบบต่างๆ
เพื่อให้เกิดการตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายในแต่ละพื้นที่
โดยต้องยอมรับสิทธิของชุมชนและอำนาจในการจัดการท้องถิ่นของตนเอง
รวมทั้งอำนาจในการจัดการทรัพยากร
และการเลือกตั้งองค์กรทางการเมืองการปกครองในทุกระดับ
ซึ่งย่อมหมายถึงการยกเลิกระบบการบริหารราชการส่วนภูมิภาค
ให้เหลือเพียงราชการส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นเท่านั้น
ประเด็นที่สาม
สร้างความเท่าเทียมและลดความเลื่อมล้ำในสังคม
ความแตกต่างระหว่างบุคคลและกลุ่มต่างๆ
เป็นปัญหาที่หยั่งรากลึกในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน
และมีผลกระทบอย่างมากต่อคนตัวเล็กๆ ในสังคม
ซึ่งนับวันจะสร้างความขัดแย้งให้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
จึงจำเป็นต้องมีการรับรองสิทธิในปัจจัยและความจำเป็นพื้นฐานของบุคคล
การใช้มาตรการต่างๆ
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้เหลือน้อยที่สุดและสร้างความเป็นธรรมในด้านต่างๆ
โดยเร็ว
และการสนับสนุนการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของภาครัฐและภาคเอกชนที่เอื้อต่อการ
กำกับตรวจสอบ และการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม
ประเด็นที่สี่
สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนต้องได้รับการปกป้องโดยกระบวนการยุติธรรม
ที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในกระบวนการยุติธรรม
สิทธิจากการถูกละเมิดโดยอำนาจรัฐอย่างฉ้อฉล
รวมทั้งต้องสร้างกระบวนการในการควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐอย่างเข้ม
งวด
ทั้งนี้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต้องได้รับการปกป้องอย่างเข้มแข็ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชนต่อสถาบันการเมืองจะ
ต้องถือเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน
ปราศจากกฎหมายเฉพาะที่ส่งผลต่อการใช้เสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์อย่างชอบ
ธรรม
ประการที่สาม กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นอำนาจของรัฐสภาที่สามารถจะกระทำได้
ทั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและจารีตประเพณีที่ปฏิบัติกันสืบเนื่องต่อมา
แต่ทั้งนี้ควรเพิ่มหลักการมีส่วนร่วมและอำนาจตัดสินใจของปวงชนเข้าไปใน
กระบวนการดังกล่าวนี้ด้วย
อนึ่ง การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งรวมถึงการโต้แย้ง ต่อรอง
อย่างเปิดกว้างและเสรี จะทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถเดินหน้าไปได้
โดยไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำหรือเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบุคคลบางคนหรือ
บางกลุ่มเท่านั้น มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนขอเรียกร้องให้แต่ละฝ่ายใช้เหตุผล
สติปัญญา และการตระหนักถึงอนาคตของสังคมไทยเป็นสำคัญ
ไม่คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าของบุคคลหรือกลุ่มสังคมใดๆ
แล้วสร้างเป็นข้ออ้างต่างๆ ขึ้นมา
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือฝ่ายที่ต้องการหยุดกระบวนการ
แก้ไขรัฐธรรมนูญก็ตาม
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
10 ธันวาคม 2555
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น