แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เพื่อไทยมั่นใจผลงาน๑ ปีทำเพื่อประชาชน แนะฝ่ายค้านปรับท่าทีเพื่อประเทศเดินหน้า

ที่มา ข่าวเพื่อไทย

 


            นายจิรายุ ห่วงทรัพย์  สส.กทม.และ รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ในช่วงการปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร นั้นพรรคได้ขอความร่วมมือไปยังผู้แทนราษฎรทุกเขตของพรรคให้นำผลงานในรอบปี ที่ผ่านมาและนโยบายที่จะทำต่อในปีต่อไปตามที่ได้เคยแถลงผลงานไว้ ให้เข้าถึงประชาชนตามที่ได้รับการไว้วางใจให้มากที่สุดโดยจัดทำเป็น VCD ความยาว ๑๕ นาที เพื่อให้สส.นำไปอธิบายต่อประชาชนนอกจากนี้พรรคจะทำการแถลงผลงานในรอบ ๑ ปี ผ่านทางสถานีวิทยุ  และโทรทัศน์ ทุกช่องในวันที่ ๑๕ ธันวาคมนี้ ในเวลาประมาณ ๑๗ นาฬิกา เป็นต้นไป โดย เนื้อหาสาระจะเป็นการทำงานที่ได้ทำไปแล้วตามนโยบาย เช่นด้านเศรษฐกิจ สังคม และการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และยาเสพติด เพื่อให้ประชาชน ทั่วประเทศได้รับทราบ ถึงผลการดำเนินการ จากนั้นก็จะนำเข้าสู่การแถลงผลงานต่อรัฐสภาในการเปิดสมัยประชุมหน้าที่จะมี ขึ้นในสิ้นเดือนธันวาคมนี้
            เนื้อหา ที่แถลงผลงาน ที่พรรคได้ประเมินนั้น พบว่ามีความคืบหน้าในการทำนโยบายไปแล้วตามที่ได้ให้ไว้ต่อรัฐสภากว่าร้อยละ ๗๐ ซึ่งพรรคได้ประเมินข้อดีข้อด้อย ของนโยบายแต่ละข้อจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และ จากการรับฟังรายงานสรุปจากรัฐมนตรีที่รับผิดชอบแต่ละกระทรวงแล้ว ซึ่งนโยบายไหนที่ดีแล้วก็จะให้ รัฐมนตรีเร่งดำเนินการให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์โดยไม่ต้องรอให้ครบเทอม ๔ ปี เพราะหากทำได้ ในช่วง ๒-๓ ปีแรกก็ถือว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก  ส่วน นโยบายใดที่มีมีปัญหา หรือมีช่องว่างติดขัดอะไรอันอาจให้เกิดความไม่ชอบมาพากล ก็ให้เร่งหาทางแก้ไขและป้องกันโดยทันที เพื่อให้นโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
                        นาย จิรายุ กล่าวว่าวันนี้ขอเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านปรับท่าทีทางด้านการเมืองให้มา เป็นฝ่ายค้านที่ มีความเป็นประชาธิปไตยสูงเช่นเดิม เพราะวันนี้บางเมืองเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว การทำงานนอกสภาเริ่มตกยุคไปแล้วประชาชนไม่เห็นด้วยและเริ่มเบื่อหน่ายกับ ความวุ่นวายของประเทศ และวันนี้ประเทศเข้าสู่ ช่วงเวลา  อยู่ดีกินดี มีความสุข”  และต่างประเทศก็ให้ความสนใจ ค้าขาย ลงทุน และให้เกียรติประเทศไทยมาก ดูจากผู้นำระดับโลกที่ไม่เคยมาเยือนไทยเลย ตั้งแต่ ปฎิวัติ ๔๙ วันนี้ก็มากันมากมายอุตสาหกรรมเติบโต ข้าวไทยขายดีมูลค่าเป็นอันดับ๑ และวันนี้หากมีฝ่ายใดไปสนับสนุนให้บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยไม่ว่าจะการ สนับสนุน แช่แข็งประเทศไทยหรืออยู่เบื้องหลังในการดันรถถังออกมา ปฎิวัติ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย วันนี้เราอยากเห็นการจับมือกันพัฒนาและทำงานเพื่อประเทศ ไม่ใช่วันๆ จ้องล้มรัฐบาลกันอย่างเดียว และหากพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ปรับท่าที คงจะถูกโดดเดี่ยวในสังคม ดูได้จากกรณีที่พรรคฝ่ายค้านแทบทุกพรรคยัง ยกมือให้ กับนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น