ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม
เว็บไซด์สถาบันพัฒนาการเมืองและคุณภาพคน ได้เผยแพร่จดหมายจาก นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย
ซึ่งเขียนถึง น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
โดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีแอร์โฮสเตสสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก คนหนึ่ง
โพสต์ข้อความว่า อยากจะสาดกาแฟใส่ "อุ๊งอิ๊ง"
บนเครื่องบินระหว่างเดินทางไปฮ่องกง กระทั่งกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมา
โดยจดหมายดังกล่าวระบุหัวเรื่องว่า "จดหมายถึงหลานอุ้งอิ้งและเอม
โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง เมล็ดงา โทษตนเท่าภูผา หนักยิ่ง"
โดยมีใจความดังนี้
จดหมายถึงหลานอุ้งอิ๊งและเอม
ลุงรู้สึกเห็นใจหลานทั้งสองมาก ที่ได้แสดงความรู้สึกว่า “ไม่ว่าจะทำอะไร…
ใครๆ ก็เกลียด”
เรื่องนี้ เป็นเรื่องของกรรม “กงกรรม กงเกวียน” เป็นกรรมที่เราจะต้องชดใช้ จากการทำกรรมด้วยตนเองและคนที่เราเกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะ “การกระทำต่อชาติบ้านเมืองและสถาบันชาติศาสน์กษัตริย์ของพ่อ”
หนูทั้งสองโชคดีที่เกิดมาบนกองเงินกองทองอำนาจยศฐาบรรดาศักดิ์ของพ่อแม่
แต่หลานทั้งสองรวมทั้งพี่ชายโชคร้าย เพราะที่สิ่งที่หนูได้รับมานั้น
ไม่ใช่ได้มาจากการทำมาหากินที่บริสุทธิ์ ตรงไปตรงมา
ไม่ทำในครรลองครองธรรมที่ถูกต้องดีงาม เหมือนสุจริตชนคนอื่นเขา แต่มาจากการโกงกิน
การติดสินบนเพื่อให้ได้มาในสัมปทาน และทำทุกอย่างอย่างฉ้อฉลที่ไม่มีธรรมาภิบาล
เอารัดเอาเปรียบจากประชาชนและประเทศชาติ
เป็นทรัพย์ที่ไม่พึ่งจะได้
เป็นทรัพย์ร้อนที่เป็นของคนอื่นเป็นของคนไทยทั้งชาติ ที่พ่อหนูไปฉกฉวย
ขโมยปล้นเอามาจากภาษีงบประมาณ ทรัพยากรของชาติที่เป็นของส่วนรวม ฯลฯ
มาเป็นสมบัติส่วนตน
สร้างอำนาจและความร่ำรวยบนความทุกข์ยากเดือดร้อนของคนอื่น
พ่อหลาน ใช้ความเจ้าเล่ห์ใช้อำนาจรัฐจากการเป็นเจ้าของพรรคการเมือง
มีเสียงข้างมากในรัฐสภา ได้จัดตั้งรัฐบาล
แล้วใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม ไปสร้างทุน สร้างสื่อ
สร้างพวกพ้องบริวาร ที่เลวและชั่วร้ายเหมือนพ่อหลาน แล้วไปรวมกันทำผิด
ทำผิดทำร้ายทำลายคนอื่น ประชาชนและประเทศชาติ
โดยเฉพาะต่อสถาบันกษัตริย์อันเป้นที่เคารพรักของประชาชนทั้งชาติ.
หลานทั้งสอง ยังได้รับกรรมที่ชั่วร้าย
จากการกระทำพฤติกรรมของพี่ชายที่เลียนแบบความเลวของพ่อโดยคิดว่าเป็นความเท่ห์ และ
จาก อาปู ที่ไร้วุฒิภาวะเป็นนายกหุ่นให้พ่อชักใย เพื่อผลประโยชน์และอำนาจของพ่อ
จากการเอาประเทศไปขายให้ต่างชาติ และบริหารประเทศอย่างผิดพลาด ไม่มีธรรมาภิบาล
ปล่อยให้อา ๆ ของหนูและรัฐมนตรีที่คอยประจบสอพลอ โกงกินประเทศชาติ
จนประเทศและประชาชนไทย ตกอยู่ในความเสี่ยงใกล้วิบัติล่มจมอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย
นี่ยังไม่นับ
การสร้างความอับอายขายขี้หน้าให้คนไทยทั้งในประเทสและต่างแดน
จากพฤติกรรมของนายกหญิงคนแรกที่เป็นอา และใช้นามสกุลชินวัตรของหลาน
ต่อภาพลักษณ์ของหญิงไทยและประเทศไทยในสายตาของชาวโลก
แล้วจะแก้อย่างไร มีทางออกทางใหน ที่จะทำให้หลานทั้งสองพ้นจากห่วงกรรม
ทำให้ “ ใคร ๆ…..ก็รักหนู “
หลานทั้งสอง จะต้องยึดความจริง กล้าทำในสิ่งที่ดีสิ่งที่ถูกต้อง
โดยต้องกล้าบอกทางที่ถูกที่ควรให้กับพ่อ โดยอาศัยความกตัญญูที่ลูกมีต่อพ่อ
และความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก
เริ่มจาก การทำความเข้าใจในความจริงของสังคมไทย ที่หลานทั้งสองอาจจะไม่ได้ไปรับรู้
เพราะหนูอยู่สูงเกินไป
ความจริงไปไม่ถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ถึงดูไบ ทำเนียบรัฐบาล
หรือทรัพย์สมบัติมหาศาลที่ตระกูลหลานครอบครองอยู่ เพราะถูกความเท็จ ความสอพลอ
ของบุคคลใกล้ชิดและห้อมล้อมตัวหนูและสื่อที่หวังสรรเสริญเยินยอพ่อหนู ปิดกั้นไว้หมด
พ่อแม่ อาๆ และตัวหนู รวมทั้งพี่ชายแสนดี จึงรับรู้ด้านเดียว
โดยด้านที่ไม่จริง ด้านเท็จ หลอกลวง จึงเกิดผลเสียเป็นด้านหลัก
หลานอาจจะไม่รู้ว่า คนไทยที่ทุกข์อยากเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส มีมากมาย
จากการกระทำของพ่อและอาๆ ของหนู ซึ่งหากเอาความไม่สบายใจของหนูไปเปรียบเทียบ
ก็เป็นเพียงเมล็ดงา กับผลมะพร้าวลูกโต
หลานอุ๊งอิ้งและเอม ที่รัก
หลานเคยอ่านโลกนิติ……
ติลมตฺตํ ปเรสํว อปฺปโทสญฺจ ปสฺสติ
นาฬิเกรมฺปิ สโทสํ ชลชาโต น ปสฺสติ.
โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง เมล็ดงา ปองติฉินนินทา ห่อนเว้น
โทษตนเท่าภูผา หนักยิ่ง ป้องปิดคิดซ่อนเร้น เรื่องร้ายหายสูญ ฯ
โลกนิติบทนี้ กล่าวถึงลักษณะของคนพาลไว้ว่า
ธรรมดาคนพาลเฝ้าแต่เพ่งเล็งจ้องจับผิดผู้อื่น หาข้อตำหนิผู้อื่น
แม้ผู้อื่นจะมีคุณสมบัติไม่บกพร่องให้ตนจับผิดได้
ก็หาเรื่องกลั่นแกล้งให้มีความผิด
ถ้ากลั่นแกล้งไม่ได้ก็กล่าวตู่ใส่ความต่าง ๆ นานา ติฉินนินทา
ขุดคุ้ยเรื่องราวเสียหายในอดีต ขึ้นมาเปิดโปความผิดของคนอื่น
แม้จะมีเพียงเล็กน้อยเท่าเมล็ดงา คนพาลก็มองเห็น และนำมาเปิดเผยให้อับอาย
ส่วนความผิดของตน แม้จะมีมาก และ ยิ่งใหญ่เท่าลูกมะพร้าว ซึ่งมีขนาดใหญ่โตกว่าเมล็ดงาหลายร้อยเท่า
คนพาลก็มองไม่เห็น แม้จะเห็นก็พยายามปกปิดไว้ไม่ให้ผู้อื่นได้รับรู้ เพราะคิดว่า
ผู้อื่นเป็นพาลเหมือนตน ที่รู้ความผิดอะไรแล้วเที่ยวโพนทนาให้อายไปทั่ว
เหล่านี้ล้วนเป็นการกระทำที่ลบหลู่ดูหมิ่นผู้อื่น
คนดีทั้งหลายรังเกียจ
พรรคเพื่อไทย รัฐมนตรี สส. แกนนำนปช. นักวิชาการและสื่อแดง………
ที่ได้ทำร้าย ทำลายคนดีในสังคมไทยมาอย่างมากมาย
ข้าราชการและตำรวจชั้นสูงที่ดี ๆ
ซึ่งทำงานรับใช้ประชาชนชาติศาสน์กษัตริย์ มาอย่างหนัก ทั้งชีวิต
ถูกพ่อของหลานทำลายอนาคต โดยการกลั่นแกล้ง โยกย้าย เพียงเพราะเขาทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
โดยไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม ไม่ทำในสิ่งที่ผิด
ตามความต้องการและตัณหาของพ่อหนูอาหนู
แต่กลับกัน
คนที่ชั่วช้าเลวทรามเป็นที่ติฉินนินทาและรับรู้กันทั้งหน่วยงานและภายนอก
กลับได้รับการเลื่อนขั้น ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น เพราะไปรับใช้
ทำเพื่อผลประโยชน์ของพ่อหนูอาหนู จนเกิดคำพูดที่เกิดผลเสียหายต่อเยาวชนของชาติ
มากมาย
“โกงไม่เป็นไร ขอให้มีผลงาน “ ( เพื่อเจ้านาย
มิใช่เพื่อส่วนรวม )
“ได้ดี เพราะ พี่ ให้ “ ถึงกับเอาไปติดหน้าห้อง
แสดงธาตุสุนัขรับใช้ ประกาศต่อสาธารณะ อย่างไม่มียางอาย
“ผมเป็นขี้ข้าทักษิณ มาตั้งนานแล้ว เพิ่งรู้หรือ “ ประกาศกลางสภาผู้แทนราษฎร์อันทรงเกียรติด้วยความภาคภูมิใจ
และแม้แต่คนและกลุ่มคนที่จาบจ้างลบหลู่ดูหมิ่น
ต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ที่ชาวไทยเคารพบูชา
มีหลักฐานชัดเจน ตัวอย่างเช่น “คลิปรูปจริงเสียงจริง ที่เปิดทั่วเมือง
ในวันที่ 24 .พย. 55
เช่น ส.ส.ก่อแก้ว, แกนนำนปช. , อดีตรองประธานสภา
ฯลฯ และคนที่หนูและคุณแม่รักมากที่สุดในชีวิต
พ่อของหนูที่เป็นเจ้าของ เป็นผู้บงการรัฐบาล อาของหนูที่เป็นนายก
กลับนิ่งเฉย ไม่ทำอะไร เพียงเพราะ คนและกลุ่มคนเหล่านี้
รับใช้และทำเพื่อพ่อหนูและอาหนู และได้อำนาจตำแหน่งเพราะการประจบสอพล
ลุงไม่ทราบว่า “หลานทั้งสอง “ ได้เห็นคลิปบัดซบนี้หรือยัง
และยิ่งกว่านั้นหลานรู้ไหม เกิดอะไรขึ้นในวันชุมนุมของประชาชน
ที่เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ ซึ่งศาลรธน.มีมติเอกฉันท์รับรอง
ตำรวจแดงเกือบทั้งกรม ที่บัญชาการโดยนายตำรวจที่ได้ดีเพราะพี่ให้
รวมทั้งรองนายกเฉลิม “ขี้ข้าของทักษิณ “ ได้ทำอะไรไว้
1.ริดรอนสิทธิการชุมนุมของประชาชน ทั้งการปิดกั้น ข่มขู่คุกคาม
โฆษณาเท็จกล่าวร้ายเสธอ้ายและผู้ชุมนุม
การกระทำต่อผู้ชุมนุมที่บริสุทธิ์ ราวกับเป็นผู้ร้ายเป็นศัตรูของชาติ
ยิงแก๊สน้ำตา รุมทุบตีกระทืบนักข่าวและผู้ชุมนุม และจับไปคุมขังกว่าร้อยคน
โดยไม่มีการตั้งข้อหาก่อนจับ ฯลฯ และการทำเลวร้ายต่อพระสงฆ์องค์เจ้าอย่างมีเจตนา
2.เอาลวดหนามไปปิดล้อมพระราชวังสวนจิตร
โดยเจตนาไม่ให้ผู้ชุมนุมไปหลบพัก หากถูกตำรวจเลวทำร้าย และเจตนาร้าย
ที่หวังแยกประชาชนออกจากในหลวงฯ ของปวงชนชาวไทย
เป็นการกระทำที่ชั่วช้าและบังอาจที่สุด ที่ไม่เคยมีมาก่อน
·หลานทั้งสอง ได้ตามข่าวหนังสือพิมพ์ในช่วงนี้ไหม?
เพื่อไทยยกทัพ รุมขยี้แอร์สาว จี้ฟันอาญาฯ
เพียงความผิดเท่าเมล็ดงา “ แอร์โฮสเตสสาวสวยการบินคาร์เธย์
แปซิฟิก โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คว่า
“อยากสาดกาแฟใส่หน้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ้ง บุตรสาวคนเล็กของ
(พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร “
มาดูพฤติกรรมของกลุ่มคน “ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกัน “
ที่มีความผิดยิ่งกว่าผลมะพร้าว
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงในนามพรรค
ตำหนิว่าเป็นทัศนคติที่รุนแรง และป้ายสีเสธ.อ้ายและ
การชุมนุมที่ผ่านมาว่า เป็นการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง ( ทั้งที่เป็นการชุมนุมตามสิทธิเสรีภาพและสงบสันติ
แต่ถูกรัฐบาลพรรคเพื่อไทยนักการเมืองเลวใช้กองทัพตำรวจแดงและนายตำรวจ
ทำลายและทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์
แทนที่พรรคเพื่อไทยจะรับผิดชอบ กลับมาโยนความผิดผลมะพร้าวมาให้คนอื่น
)
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกอีกตนหนึ่ง พูดน่าฟังว่า “ ต้องแยกแยะระหว่างความชอบ
อารมณ์ส่วนตัว และการปฏิบัติหน้าที พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่มีการศึกษาทำกัน
ผมขอประนาม …. “
(ตอนแรกคิดว่า สุภาพบุรุษจิรายุ จะว่า ดร.เหลิม อาจารย์ธิดา หมอเหวง
ก่อแก้ว และพวกเผาบ้านเผาเมือง รวมทั้งดร.ทักษิณ นายกปู ฯ
ซึ่งเป็นความผิดใหญ่กว่าผลมะพร้าวร้อยเท่า)
แต่กลับไปว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ทำผิดเท่าเมล็ดงาอย่างรุนแรง
ในนามพรรครัฐบาล
ส่วนที่มีจิตใจหยาบเลวร้ายที่สุด กลับเป็นรมช.มหาดไทย นายประชา
ประสบดี (ที่แย่งตำแหน่งไปจากตู่จัตุพรไป)
“พฤติกรรมของพนักงานสายการบิน สะท้อนเจตนาคุกคาม อาฆาตมาดร้าย
และจ้องจะทำร้าย … ถือเป็นการทำผิดกฏหมายอาญา
ที่มีการตระเตรียมใก่อน เพียงแต่กระทำการไม่สำเร็จ เนื่องจากจังหวะไม่เอื้ออำนวย
หรือมีอุปสรรคมาขัดขวาง “ และยังแสดงความเห็นต่อสายการบินฯ
ว่า “ กรณีนี้ ผู้บริหารสายการบิน
ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด
แค่แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนนั้น คงไม่เพียงพอ จะต้องสั่งพักงาน
หร้อมดำเนินคดีอาญา เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง “
และยังกล่าวแสดงความอาฆาตมาดร้าย เพื่อเอาใจลูกสาวผู้มีพระคุณว่า “ ผู้บริหาร
จำเป็นต้องเอาคนที่มีความคิดอันตรายนี้ออกไป ความคิดเป็นภัยแบบนี้
วันหน้าอาจก่อเหตุไม่คาดฝัน หากมีญาติหรือคนที่ฝักใฝ่ (พ.ต.ท.)
ทักษิณขึ้นเครื่องบินมา อาจถูกลอบทำร้ายหรือลอบวางยาพิษก็เป็นได้”
นี่คือรมต.คนดีของนายกยิ่งลักษณ์และทักษิณชินวัตร
ที่มีหน้าที่รักษาดูแลความทุกข์สุขของประชาชนทั้งประเทศ เลวหมาไม่แดก
สมแล้วที่นายทักเลือกลูกหมาเชลียร์นายตัวนี้ หมาเป็นอย่างไร
เจ้าของหมาก็เป็นเช่นนั้น
นี่
เป็นแค่ การกระทำเลวเพียงเสี่ยวหนึ่ง
ของความชั่วช้าที่คนกลุ่มเหล่านี้
รวมทั้งพ่อและอาของหลานทำกับแผ่นดินโดยเฉพาะที่กระทำต่อสถาบันกษัตริย์ผู้มี
คุณูปการต่อการสร้างประเทศไทยและรักษาเอกราชให้กับคนไทยมาถึงวันนี้
และในหลวงองค์พระประมุขของแผ่นดิน ที่ทรงใช้ทั้งชีวิตครองแผ่นดินโดยธรรม
ทำเพื่อประสกนิกรของพระองค์
หลานอุ้งอ้งและหลานเอมที่รัก
หากหลานต้องการให้เป็นที่รักของคนดี จงหนีห่างคนชั่วคนเลวพวกนี้
แต่สำหรับพ่อของหลาน ก็เอาจดหมายของลุงอ่านให้พ่อฟังหลายๆรอบ
เพื่อให้เข้าหู และเกิดสำนึกความรับผิดชอบชั่วดี และหาก ไม่อยากให้ “ ใครๆก็เกลียดลูกของตัว
“ ตัวพ่อก็อย่าทำเลวต่อประชาชนและทำชั่วอประเทศอีกเลย
กลับมาติดคุก 2 ปี เลิกคิดอาฆาตพยาบาทต่อประชาชนและชาติศาสน์กษัตริย์
เป็นจุดเริ่มของการกลับเนื้อกลับตัว
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยาก เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
แต่หากหลานรักพ่อแม่จริง ต้องพยายาม
รักหลานด้วยใจจริง
ลุงชัยวัฒน์ สุรวิชัย
เว็บไซต์ http://www.vowthai.org/?p=357
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น