ที่มา Thai Free News
โดย เสรีชนประชาไท
เมื่อ พุธ, 02/01/2013 - 10:30
ขอทบทวนความทรงจำบางอย่าง ทำไมพลเอกเปรมเกลียดทักษิณ จากที่ผมลองวิเคราะห์และข้อเท็จจริงบางอย่างที่ตรวจพบ
1
นิสัยของสองคนเข้ากันไม่ได้ เปรมเป็นขุนนางทำอะไรชอบความสง่างาม ค่อยๆ พูด
ค่อยคิดแบบข้าราชการที่เขารับราชการมานานถึง 39 ปี
แต่ทักษิณเป็นคนรุ่นใหม่ เฉี่ยว ทำงานไว สไตล์เจ้าของธุรกิจและ CEO
ที่สำคัญ ทักษิณรับไม่ได้กับระบบราชการที่จำกัดไปด้วยกรอบของกฎหมาย
ทักษิณไม่โตในระบบราชการ แม้เขาเป็นพันตำรวจโท แต่ก็ไม่เคยทำงานเด่น
เป็นดอกเตอร์ แต่นายไพร่ใช้เขาไปทำงานธุรการ เมื่อนิสัยและธาตุต่างกัน
ท้ายสุดก็ไปกันไม่ได้
2
พลเอกเปรม แวดล้อมด้วยขุนนางและคนในองคมนตรีที่มีลักษณะะจารีตนิยม ขวาจัด
ทั้งพลเอกพิจิตร เกษม วัฒนชัย คนนี้เคยร่วมกับทักษิณตอนหลังขัดใจกัน
เลยออกมาก็พาลทักษิณไปด้วย อรรถนิติ ดิษฐอำนาจ ชาญชัย ลิขิตจิตถะ
สองคนนี้ขวาตกขอบและสนับสนุนการล้มระบอบทักษิณ ธานินทร์ กรัยวิเชียร
คนนี้ขวาตกขอบ คลั่งเจ้า บ้าหมอดู หรือคนนอกองคมนตรี
แต่เป็นคนใกล้วังอย่างนายสุเมธ เฟอรารี่ อดีตเลขาสภาพัฒน์
ทำให้แนวคิดกลุ่มคนพวกนี้เป็นจารีตนิยมสุดกู่
หนักข้อพลเอกเปรมยังนำเอาพลอากาศเอกชลิต รอง คมช มาร่วมงานองคมนตรีอีก
ทำให้แนวคิดไปกันไม่ได้กับฝ่ายประชาชน ฝ่ายเสรีนิยม และโลกาภิวัฒน์
พวกนี้นิยมให้ประเทศเดินทางแบบเก่า สมัยเปรมปกครองเมื่อสามสิบปีก่อน
ไม่ต้องการใช้เทคโนโลยี่สื่อสาร เนต หรือเปิดประเทศมากมายนัก
กลุ่มจารีตนิยมมักเห่อเหิมกับยศ ชั้น การกราบไหว้ มอบคลานของประชาชน
แต่เสรีนิยม รับกับยุคเปลี่ยนผ่าน และหลักสิทธิมนุษยชน คนเท่าเทียมกัน
ทำให้สองคนนี้เป็นผู้นำสองสำนักและ clash กันในที่สุด
3
พลเอกเปรม เห็นใครดีไม่ได้ เห็นใครได้ไม่ดี
ตามคำของท่านสมัครที่วายชนม์ไปแล้ว ขี้ริษยา ใครขัดคอมักจำ และอาฆาต
ไปดูที่พลตรีมนุญกฤติเล่าเรื่องเปรม ริษยาพลเอกเสริม ทำทุกอย่างให้ตนได้ ผบ
ทบ นำประเทศรบลาวเพราะไม่พอใจลาวที่ไปคบเวียดนาม ต้องการข่มลาว
พอรบแพ้ที่ร่มเกล้า เปรมให้ชวลิตรับผิดแทน เขาภูมิใจที่เป็นนายกไทยแปดปี
ติดต่อกัน แม้จะมาด้วยปืน อำนาจทหารก็ดีใจ พอทักษิณเป็นนายกปีที่หก
เปรมจึงต้องหาทางกำจัดเสีย มิฉะนั้น ทักษิณจะเบรก record เป็นนายกแปดปี
หรืออาจจะถึงสิบสองปีได้
4
การแต่งตั้งโยกย้ายโผทหาร ปกติ นายกทุกคนจะส่งให้เปรมดูและขอคำปรึกษา
แต่ทักษิณไม่ทำ กลับประกาศมาได้ว่า ผ่านมือนายกแล้ว ใครแก้ไม่ได้
ทำให้เปรมแค้นมาก
เพราะแก่หงำเหงือกไม่เคยโดนเด็กคราวลูกพูดกระทบให้เจ็บช้ำถึงปานนี้
ประกอบกับนายพลหลายคนรวมทั้งบรรณวิทย์ ก็มาร้องขอให้ป๋าช่วย
แต่ป๋าทำอะไรไม่ได้ ทำให้คนแก่ดูด้อยค่า เมื่อถึงคราวเปรมรุก
ขึ้นบนจากการรัฐประหาร ถึงเอาทักษิณตาย
ขณะที่นายกคนอื่นก่อนหน้าที่ถูกขับไล่ไป โดนแค่ถอดจากตำแหน่ง
แล้วกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ ทั้ง เสนีย์ ธานินทร์ ชาติชาย
แต่ไม่ใช่ทักษิณที่เขากะเอาให้ตาย หรือไม่ก็ค้องคลานมากราบเท่้าเขา
5 ความขัดแย้งระหว่างสองคนลามปามมาถึงเรื่องจัดงานในหลวง
คุณ
เปรม บอกท่านทักษิณว่า การจัดงานฉลองในหลวงครองราชย์ 60 ปีน่ะ
ขอให้ทักษิณออก เพราะคนประท้วงทักษิณมาก เป็นประธานจัดงานแล้วคนจะไม่ยอมรับ
(แต่ผิดคาดภายหลังการจัดงานมีคนมาร่วมที่บรมรูปทรงม้ากว่าเจ็ดหมื่นคน)
คุณ
ทักษิณบอก การเมืองคือ การเมือง
แต่การจัดงานเทิดพระเกียรติเป็นเรื่องความจงรักภักดี ผมทำไปหมดแล้ว
จัดวางคนไปแล้ว ไม่ยอมออก ถ้าออก ใครจะมาเป็นแทนผม พลเอกเปรมบอกว่า
ผมจะรับสานงานต่อให้ คุณทักษิณบอกไม่เห็นด้วย เพราะการที่คนมาประท้วง
ไม่ได้แปลว่าผมทำผิด คนกลุ่มใหญ่สนับสนุนผม เลือกตั้งที่ยุบสภา ผมก็ชนะอีก
ไม่อาจทำตามท่านแนะได้ครับ
เปรม
โกรธจัด ยิ้มๆ แบบเคืองในใจ แต่สายตาแสดงออก
จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่เจอกันอีก มาเจอกันอีกที ตอนงานศพพ่อทรราช
พลเอกอนุพงษ์ ตาย ทักษิณยกมือไหว้ เปรมก็ทักว่า สบายดีหรือ ทักษิณบอกสบายดี
ป๋าล่ะครับ เปรมบอก คนแก่จะเอาสบายยังไงได้
ก็แค่ครั้งสุดท้ายที่พูดในที่สาธารณะ แต่มีการเจรจาลับกันอีกหลายหน
ตอนแดงประท้วงแล้วถูกฆ่า
6
พลเอกเปรมอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารชัดเจน จากเอกสารของวิกีลิกส์ก็บอกชัด
พลเอกสนธิ บัง เคยสารภาพว่า พลเอกเปรมพาเข้าเฝ้าเอง ไม่ใช่เขาขอเข้าเฝ้า
ซึ่งหากพลเอกบังพูดความจริง การกระทำของเปรมคือ
การไม่ผิดคำสาบานที่ปฎิญาณตนว่าจะพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญ
แต่นี่เขากลับทำตรงข้ามคือ ฉีก รธน เสียเอง พอรัฐประหารเสร็จ สองวัน สนธิ
นำคณะทหารมาคารวะเปรม เปรมตรวจแถวทหารด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
และด่าทักษิณโดนยกคำพูดกระทบทำนองว่า คนโกง คนไม่ดี พระสยามเทวาธิราชลงโทษ
พลเอกเปรม ทำเสื่อมเสียพระเกียรติเพราะองคมนตรีต้องไม่ยุ่งการเมือง
ดูรัฐธรรมนูญ มาตรา 14 วรรคท้าย องคมนตรีต้องไม่ฝักใฝ่พรรคการเมือง
แต่นี่เขาเสือก และโดดมาเล่นการเมืองเต็มตัว อาทิ
คนไทยโชคดีที่ได้คุณอภิสิทธิเป็นนายก หรือการเตือนจิ๋วว่า
สมัครพรรคเพื่อไทยระวังจะกลายเป็นคนทรยศบ้านเมืองหรือไม่จงรักภักดี
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่า
คนเป็นระดับประธานองคมนตรีสำรอกออกมาได้แบบนี้
7
เปรมชอบหลักการ divide and rule แบบที่เขาครองตำแหน่งนายกแปดปี
ต้องการให้พรรคการเมืองอ่อนแอ มีพรรคเล็กๆ มากพรรค แต่ทักษิณสู้ตาม รธน 40
ที่ต้องการเห็นพรรคการเมืองเข้มแข็งสู้กันที่อุดมการณ์ของพรรคใหญ่
เขาต้องการให้มีการรวมศูนย์อำนาจภายใต้การจัดการแบบ CEO ของภาคเอกชน
วิธีคิดของสองคนนี้จึงไปคนละขอบฟ้า ที่สุด เมื่อมีโอกาส แก้ รธน
เขาต้องการให้พรรคการเมืองพลังประชาชนถูกยุบ กระจายไปหลายพรรค
แต่เปรมทำไม่สำเร็จ เพราะเพื่อไทยกลับได้เสียงมากกว่าสมัยพลังประชาชนคือ
265 ในการเลือกตั้ง กค 54 เพิ่มจาก 233 เสียงในปี 50
ทำให้เปรมผิดหวังรุนแรง
สถานะปัจจุบัน
จริงๆ
พลเอกเปรมรู้แล้วว่า เอาทักษิณไม่ลง เขาพร้อมจะประนีประนอมในระดับหนึ่ง
คือ ให้ทักษิณกลับ แต่เงินไม่คืนให้ แต่น่าเสียดายเฒ่าการเมือง
ตอนนี้ทำอะไรมากนักไม่ได้เพราะหลายฝ่ายไม่ยอม จะสู้จนตาย
และรอจังหวะเอาคืนยิ่งรักทักษิณ เพียงแต่ว่า ยิ่งสู้ ยิ่งถลำลึก
และเขาไม่ประมาณกำลังตนเองเลยว่าสู้เสื้อแดงไม่ได้ กองทัพเล่าก็ขาดเอกภาพ
สั่งได้ แต่ลูกน้องไม่ทำตาม เพราะตอนนี้คำสั่งตามกฎหมายอยู่ในมือยิ่งรัก
เพราะเขาไม่เคยพบคู่ปรับที่คุณเอาชนะไม่ได้ ไม่ใช่ทักษิณ แต่เป็น
มวลมหาประชาชน ที่เทิดทูนระบอบประชาธิปไตย ต่ะหากเล่า เรื่องจึงตาลปัตรจนทุกวันนี้ !!!
http://www.tfn5.info/board/index.php?topic=44025.0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น