ที่มา มติชนออนไลน์
ที่ห้องพิจารณา 701 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา
09.00 น. วันที่ 23 มกราคม ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ
4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24
มิถุนาเพื่อประชาธิปไตย และอดีตบรรณาธิการหนังสือวอยซ์ ออฟ ทักษิณเป็นจำเลย
ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 จากกรณีเมื่อวันที่ 1-15 มีนาคม 2553
นิตยสาร VOICE OF TUKSIN : เสียงทักษิณ ปีที่ 1 ฉบับที่ 15 ปักษ์หลัง
กุมภาพันธ์ 2553 ได้ลงบทความ คมความคิด ของผู้ใช้นามปากกาว่า จิตร พลจันทร์
เรื่องแผนนองเลือด กับยิงข้ามรุ่น หน้าที่ 45-47
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2962/2554
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาก่อนหน้านี้ว่า ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 112 ไม่ขัดแย้งกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฯ ปี 2550 มาตรา 3, 8, 29 และ
45 เรื่องการจำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น
ต่อมาศาลได้นั่งบัลลังค์อ่านคำพิพากษาโดยพิเคราะห์จากพยานหลักฐานทั้ง
หมดเห็นว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามฟ้องโดยมีเจตนาอาฆาตมาดร้ายพระมหา
กษัตริย์ จากการลงบทความดังกล่าวจึงตัดสินให้จำคุกจำเลยใน 2 กระทง กระทงละ 5
ปี รวมเป็น 10 ปี นอกจากนี้ ยังให้นำโทษในหมิ่นประมาทฯ พล.อ.สพรั่ง
กัลยาณมิตร ที่ศาลสั่งให้รอลงอาญาไว้โดยมีโทษจำคุก 1
ปีมาลงโทษเพิ่มเติมด้วย
เนื่องจากจำเลยได้กระทำความผิดซ้ำอีกในระหว่างรอลงอาญา
รวมให้ลงโทษจำเลยเป็๋นเวลา 11 ปี โดยไม่มีการรอลงอาญา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
นายสมยศได้มีสีหน้าเคร่งเครียด ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา
เช่นเดียวกับภรรยาและบุตรชายของนายสมยศ ที่เดินทางมาให้กำลังใจ
ก็อยู่ในอาการเศร้าสลดเช่นกัน โดยมีกลุ่มที่ติดตามคดีดังกล่าว
ทั้งไทยและต่างประเทศ
รวมทั้งสื่อจำนวนมากมาติดตามทำข่าวเต็มห้องพิจารณาคดีเกือบ 100 คน
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ทนายของนายสมยศจะยื่นาอุทธรณ์คดีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น