24 มกราคม 2556
ศาลไทยตัดสินจำคุกนักกิจกรรมการเมือง(สมยศ พฤกษาเกษมสุข) 10 ปี ในข้อหาดูหมิ่นฯกษัตริย์
แปลข่าวโดย โจ กอร์ดอน
โดย Joe Gordon
กรุงเทพ ประเทศไทย(ซีเอนเอน) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศาลไทยได้ตัดสินนักกิจกรรมการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ในข้อหาดูหมิ่นกษัตริย์ที่เป็นที่เคารพสูงสุดของประเทศ การตัดสินที่กลายเป็นข้อวิพากษวิจารณ์อย่างกว้างขว้างในกลุ่มผู้เรียกร้อง สิทธิมนุษยชนและสหพันธ์ยุโรป
ศาลอาญากรุงเทพ ตัดสินว่า สมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้กระทำการละเมิดกฎหมายหมิ่นฯในขณะที่เขาเป็นบรรณาธิการหนังสือ Voice of Thaksin ซึ่งตีพิมพ์บทความที่เสียดสีสถาบันกษัตริย์สองบทความ
สมยศ เดินทางมาถึงศาลด้วย เท้าเปล่าไม่ใส่รองเท้า และถูกล่ามโซ่ที่ข้อเท้า เขาจะขออุทธรณ์ต่อมา ตามความคิดเห็นของทนายคารม พลพรกลาง
“คำตัดสินอย่างนี้บ่อนทำลายสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพของสื่อ” สหภาพยุโรปแสดงความคิดเห็น “ในขณะเดียวกัน มันกระทบไปถึงภาพพจน์ของประเทศไทยที่เป็นประเทศเสรีมีสังคมที่เป็น ประชาธิปไตย”
กฎหมายของไทย ยอมให้ศาลตัดสินโทษระยะยาวสำหรับประชาชนที่ถูกลงโทษว่า หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อราชวงศ์
ก่อนการกักขังตัว เริ่มเมื่อเดือนเมษา 2554 สมยศได้รณรงค์ให้แก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนี้ และเขาได้ยืนฎีกาไปยังศาลรัฐธรรมนูญขณะที่อยู่ในคุก โดยอ้างว่ากฎหมายนี้ขัดต่อพื้นฐานเบื้องต้นของสิทธิมนุษยชน และมีบทการลงโทษที่ไม่เหมาะสม
ทางการไทยได้กักขังเขาไว้ตั้งแต่เริ่มที่มีการจับตัว และปฎิเสธการขอประกันตัวทุกครั้งไป
“การตัดสินของศาลแสดงไปในทางการสนับสนุนให้แก้ไขกฎหมายหมิ่นของสมยศ มากกว่าแสดงให้เห็นความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นกับสถาบัน” แบรด์ อาดัมส์ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียของ Human Rights Watch กล่าว
สมยศได้ถูกตัดสินจำคุกเพิ่มอีกหนึ่งปี จากคดีก่อนหน้านั้นที่รอลงอาญาในข้อหาหมิ่นประมาท จึงรวมการถูกจำคุกเป็นทั้งสิ้น 11 ปี
บรรดาทูตกว่ายี่สิบประเทศ ส่วนมากจากยุโรป ได้เข้าร่วมฟังการตัดสินในครั้งนี้ด้วย รวมทั้งผู้ให้การสนับสนุนสมยศกว่ายี่สิบคน โดยที่เขาส่งรอยยิ้มให้เมื่อเดินออกจากห้องพิจารณาคดี
บทความที่เป็นประเด็นนี้อยู่ในหนังสือที่สมยศพิมพ์จำหน่ายเมื่อปี 2553 ระหว่างที่มีความวุ่นวายทางการเมืองในกรุงเทพ เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มที่ต้องต้านประท้วงและปะทะกับกองกำลังรักษาความปลอดภัยในสมัยนั้น
กลุ่มเสื้อแดงสนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกขับไล่ออกจากตำแหน่งโดยการรัฐประหารของทหารเมื่อปี 2549
ทางเรา(CNN)ไม่สามารถนำรายละเอียดของบทความเหล่านั้นมาเสนอที่นี้ได้ เพราะจะเป็นการละเมิดกฎหมายหมิ่นฯเช่นเดียวกัน
กษัตริย์ภูมิพลแห่งประเทศไทย อายุได้ 85 ปี เป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุด
ประเทศไทยได้ยกเลิกระบบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในทศวรรษ 2473 และกษัตริย์มีอำนาจเหลืออยู่เพียงนิดเดียวในทางการเมือง และได้สวมมงกุฎขึ้นครองราชย์ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 จนกลายเป็นปูชนียบุคคลที่เคารพเลื่อมใสของประเทศไทย
Human Rights Watch ได้กล่าวว่าจำนวนคดีหมิ่นฯที่นำฟ้องต่อศาลได้มีจำนวนมากเพิ่มขึ้นอย่างมากใน ประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม 2549 และ พฤษภาคม 2554
การฟ้องร้องได้ลดลงเมื่อยิงลักษณ์ ชินวัตรได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2554
แต่ทางการไทย “"ยังคงใช้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในประมวลกฎหมายอาญาและพระราชบัญญัติอาชญากรรม คอมพิวเตอร์เพื่อจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก รวมไปถึงบนอินเทอร์เน็ตด้วย" เจ้าหน้าทีของ Human Rights Watch ได้กล่าว
เมื่อปีที่ผ่านมา บรรณาธิการเว็บ(ประชาไท)ได้เสียค่าปรับ 20,000 บาท (US $ 628) และรอลงอาญาเป็นเวลาแปดเดือน เนื่องจากไม่ลบกระทู้ที่มีข้อความหมิ่นฯสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกไปเร็วพอ
จาก http://edition.cnn.com/2013/01/23/world/asia/thailand-activist-prison-sentence/index.html?fb_action_ids=10200466431811902&fb_action_types=og.recommends&fb_source=aggregation&fb_aggregation_id=288381481237582
ผู้อ่านควรกดลิงค์เข้าไปอ่าน ความคิดเห็นจากนานาชาติที่วิพากษ์วิจารณ์ อันเป็นผลกระทบทางตรงต่อสถาบันกษัตริย์ไทยในทางลบและเสียหายอยางร้ายแรง จากการที่ทางการไทยได้ตัดสินจำคุกสมยศเช่นนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น