16 ม.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเฟซบุ๊ก หยุดเขื่อนไซยะบุรี (stop Xayaburi Dam)
เผยแพร่ แถลงการณ์จากภาคประชาชนและองค์กรสิ่งแวดล้อมในอาเซียน
ต่อการประชุมเอ็มอาร์ซี ระหว่างวันที่ 16-17 ม.ค.56 ที่เมืองหลวงพระบาง
สปป.ลาว
กรณีที่รัฐบาลประเทศลุ่มน้ำโขงไม่มีวาระเรื่องเขื่อนไซยะบุรีในการประชุมคณะ
มนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission: MRC) ประจำปี
ระบุเป็นการทำลายความร่วมมือในลุ่มน้ำโขงในอนาคต
“การที่คณะมนตรีแม่น้ำ
โขงไม่นำประเด็นเขื่อนไซยะบุรีมาพูดคุยเพื่อแก้ปัญหา
แสดงถึงการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบของรัฐบาลสมาชิกลุ่มน้ำโขงตอนล่าง”
นายนิวัติ ร้อยแก้ว กลุ่มรักษ์เชียงของกล่าว พร้อมระบุด้วยว่า
ความเงียบไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากเขื่อนไซยะบุรี
เรื่องนี้ส่งผลกระทบถึงการสร้างเขื่อนอื่นๆ ในแม่น้ำโขงในอนาคต
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุข้อมูลด้วยว่า ในเดือน พ.ย.55
รัฐบาลลาวจัดพิธีเปิดการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีอย่างเป็นทางการ
แม้มีการทักท้วงอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับโครงการนี้
ประเทศสมาชิกลุ่มน้ำโขงตอนล่างยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกระบวนการ
ปรึกษาหารือล่วงหน้า
ในขณะเดียวกันรัฐบาลลาวก็เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล
กัมพูชาและเวียดนามที่ต้องการให้มีการประเมินผลกระทบข้ามพรมแดนของโครงการ
นี้ รวมทั้งเพิกเฉยต่อความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง
(เอ็มอาร์ซี) ที่เสนอให้ชะลอการก่อสร้างเขื่อนออกไป
จนกว่าการศึกษาจะแล้วเสร็จ
ส่วนหนังสือพิมพ์ Cambodia Daily รายงาน ข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า
รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมกัมพูชาเน้นย้ำจุดยืนของประเทศโดยการแถลงว่า
“นายกรัฐมนตรีฮูนเซ็น กล่าวว่า
ต้องมีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อประเมินว่าจะเกิดผล กระทบ
(ต่อเรา) อย่างไร
และเราเรียกร้องให้รัฐบาลลาวเคารพมติให้ชะลอการก่อสร้างเขื่อน”
ขณะที่แหล่งทุนระหว่างประเทศได้แสดงข้อกังวลเช่นกัน ล่าสุดในเดือน
พ.ย.55 รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่ามี “ข้อกังวลว่าการก่อสร้างดำเนินไปก่อนที่
การศึกษาผลกระทบจะแล้วเสร็จ”
“สองปีที่ผ่านมาโครงการเขื่อนไซยะบุรีสร้างความแตกแยกอย่างรุนแรงของ
รัฐบาลในภูมิภาคนี้
และเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับแม่น้ำข้ามพรมแดนซึ่งเป็นที่สนใจกันมากที่สุดกรณี
หนึ่งในโลก” เพียรพร ดีเทศน์ ผู้ประสานงานประเทศไทยองค์การแม่น้ำ นานาชาติ (International Rivers) กล่าว
เพียรพร กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา
รัฐบาลลาวปฏิเสธที่จะร่วมมือกับเพื่อนบ้าน
จึงไม่น่าประหลาดใจที่ไม่มีวาระการประชุมเรื่องนี้บรรจุอยู่
“ลาวได้ละเมิดข้อตกลงแม่น้ำโขง
ทั้งยังอ้างอีกว่าเขื่อนไซยะบุรีมีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
และยังไม่สนใจข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านประมงซึ่งระบุว่า
มาตรการลดผลกระทบด้านประมงและปลาของเขื่อนไซยะบุรีไม่น่าจะได้ผล”
เพียรพรกล่าว
ด้านนายเทพ บุญณฤทธิ์ พันธมิตรเพื่อแม่น้ำในกัมพูชา (Rivers Coalition
in Cambodia) และสมาคมอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม (Cultural and
Environmental Preservation Association) กล่าวว่า
รัฐบาลในภูมิภาคนี้มีอำนาจป้องกันไม่ให้เกิดหายนะจากการก่อสร้างเขื่อนไซยะ
บุรีและเขื่อนอื่นๆ บนแม่น้ำโขงสายหลัก
ทำได้ด้วยการเรียกร้องให้ยุติการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีและเขื่อนแม่น้ำโขง
โครงการอื่นๆ ทันที
จนกว่าการศึกษาเพิ่มเติมและการปรึกษาหารือกับประชาชนจะเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์
“เราเรียกร้องให้รัฐบาลในภูมิภาค นี้และแหล่งทุนประกันว่า
จะมีการทบทวนกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าก่อนที่จะเดินหน้าโครงการเขื่อน
ใดๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้โครงการเขื่อนอื่นๆ ซ้ำรอยเขื่อนไซยะบุรี”
นายเทพกล่าว
ส่วน Ms.Lam Thi Thu Suu ผู้ประสานงานเครือข่ายแม่น้ำเวียดนาม
(Vietnam Rivers Network) และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสังคมและการพัฒนา
(Centre for Social Research and Development - CSRD) เวียดนาม กล่าวว่า
เรายังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าผลกระทบจากเขื่อนไซยะบุรีที่มีต่อความเป็น
อยู่และความมั่นคงด้านอาหารของประชาชนในลุ่มแม่น้ำโขงจะกว้างไกลและรุนแรง
แค่ไหน
“ในฐานะที่เป็นสายน้ำร่วมกัน
อนาคตของเราจึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐบาลในภูมิภาคที่จะ
ต้องแก้ปัญหาเขื่อนไซยะบุรีทันที ก่อนที่จะสายเกินไป”
ผู้ประสานงานเครือข่ายแม่น้ำเวียดนามกล่าว
ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ในระหว่างการลงพื้นที่แม่น้ำโขงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์การแม่น้ำ นานา
ชาติพบว่า โครงการเขื่อนอื่นๆ
บนแม่น้ำโขงสายหลักของลาวกำลังเดินหน้าไปเช่นกัน อาทิ
ในพื้นที่สร้างเขื่อนปากแบงซึ่งยังไม่เข้าสู่กระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้า
ของเอ็มอาร์ซี
ชาวบ้านให้ข้อมูลว่าโครงการเขื่อนปากแบงมีกำหนดเริ่มดำเนินการในช่วง 2-12
เดือนข้างหน้า โดยเริ่มจากการก่อสร้างถนนสู่หัวงานเขื่อน
ชาวบ้านยังบอกอีกว่า
บริษัทจากจีนได้มาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเขื่อนปากลายและเขื่อนสานะ
คามเมื่อเร็วๆ นี้
อีกทั้ง เมื่อเดือนกันยายนที่แล้ว องค์การแม่น้ำ นานาชาติพบว่าเริ่มมีการดำเนินงานเกิดขึ้นที่ พื้นที่สร้างเขื่อนดอนสะหง โดยมีการระเบิดแก่งหินสองแห่งเพื่อทำเป็นทางปลาผ่าน
ภาพประกอบจาก: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4772896793317&set=o.122260101128398&type=1&relevant_count=1&ref=nf
"เขื่อนไซยะบุรีถูกตัดทิ้ง จากวาระประชุมคณะมนตรีแม่น้ำโขง
ทำลายความร่วมมือในลุ่มน้ำโขงในอนาคต"
แถลงการณ์จากภาคประชาชนและองค์กรสิ่งแวดล้อมในอาเซียน
ต่อการประชุมเอ็มอาร์ซี วันที่ 16-17 มกราคม 2556 ที่เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว
-----------
กรุงเทพฯ ประเทศไทย:
รัฐบาลประเทศลุ่มน้ำโขงไม่มีวาระการประชุมเรื่องเขื่อนไซยะบุรีใน
การประชุมคณะมนตรีแม่น้ำโขงประจำปี ในสัปดาห์นี้
“การที่คณะมนตรีแม่น้ำ
โขงไม่นำประเด็นเขื่อนไซยะบุรีมาพูดคุยเพื่อแก้ปัญหา
แสดงถึงการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบของรัฐบาลสมาชิกลุ่มน้ำโขงตอน ล่าง”
นายนิวัติ ร้อยแก้ว กลุ่มรักษ์เชียงของกล่าว “ความเงียบไม่
ได้ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากเขื่อนไซยะบุรี
เรื่องนี้ส่งผลกระทบถึงการสร้างเขื่อนอื่นๆ ในแม่น้ำโขงในอนาคต”
ในเดือนพฤศจิกายน 2555
รัฐบาลลาวจัดพิธีเปิดการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีอย่างเป็นทางการ
แม้มีการทักท้วงอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับโครงการนี้
ประเทศสมาชิกลุ่มน้ำโขงตอนล่างยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกระบวนการ
ปรึกษาหารือล่วงหน้า
ในขณะเดียวกันรัฐบาลลาวเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการจาก
รัฐบาลกัมพูชาและเวียดนามที่ต้องการให้มีการประเมินผลกระทบข้าม
พรมแดนของโครงการนี้
รวมทั้งเพิกเฉยต่อความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง
(เอ็มอาร์ซี)ที่เสนอให้ชะลอการก่อสร้างเขื่อนออกไป
จนกว่าการศึกษาจะแล้วเสร็จ
หนังสือพิมพ์ Cambodia Daily รายงาน ข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า
รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมกัมพูชาเน้นย้ำจุดยืนของประเทศโดยการแถลงว่า
“นายกรัฐมนตรีฮูนเซ็น กล่าวว่า
ต้องมีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อประเมินว่าจะเกิดผล กระทบ
(ต่อเรา) อย่างไร
และเราเรียกร้องให้รัฐบาลลาวเคารพมติให้ชะลอการก่อสร้างเขื่อน”
แหล่งทุนระหว่าง ประเทศได้แสดงข้อกังวลเช่นกัน ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน
รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่ามี “ข้อกังวลว่าการก่อสร้างดำเนินไปก่อนที่
การศึกษาผลกระทบจะแล้วเสร็จ”
“สองปีที่ผ่านมาโครงการ
เขื่อนไซยะบุรีสร้างความแตกแยกอย่างรุนแรงของรัฐบาลในภูมิภาคนี้
และเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับแม่น้ำข้ามพรมแดนซึ่งเป็นที่สนใจกันมาก
สุดกรณีหนึ่งในโลก” เพียรพร ดีเทศน์ ผู้ประสานงานประเทศไทย International
Rivers กล่าว “ที่ผ่านมา รัฐบาลลาวปฏิเสธที่จะร่วมมือกับเพื่อนบ้าน
จึงไม่น่าประหลาดใจที่ไม่มีวาระการประชุมเรื่องนี้บรรจุอยู่
ลาวได้ละเมิดข้อตกลงแม่น้ำโขง
ทั้งยังอ้างอีกว่าเขื่อนไซยะบุรีมีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
และยังไม่สนใจข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านประมงซึ่งระบุว่ามาตรการลดผลกระทบ
ด้านประมงและปลาของเขื่อนไซยะบุรีไม่น่าจะได้ผล”
“รัฐบาลในภูมิภาคนี้มี
อำนาจป้องกันไม่ให้เกิดหายนะจากการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีและ เขื่อนอื่น ๆ
บนแม่น้ำโขงสายหลัก
ทำได้ด้วยการเรียกร้องให้ยุติการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีและเขื่อนแม่น้ำโขง
โครงการอื่น ๆ ทันที
จนกว่าการศึกษาเพิ่มเติมและการปรึกษาหารือกับประชาชนจะเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์”
นายเทพ บุญณฤทธิ์ พันธมิตรเพื่อแม่น้ำในกัมพูชา (Rivers Coalition in
Cambodia) และสมาคมอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม (Cultural and
Environmental Preservation Association) กล่าว
“เราเรียกร้องให้รัฐบาลในภูมิภาค นี้และแหล่งทุนประกันว่า
จะมีการทบทวนกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าก่อนที่จะเดินหน้าโครงการเขื่อนใด
ๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้โครงการเขื่อนอื่นๆ ซ้ำรอยเขื่อนไซยะบุรี”
ในช่วงสี่ปีที่ผ่าน มา องค์กรภาคประชาสังคม นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์
รัฐบาลที่ให้ทุนและประเทศสมาชิกลุ่มน้ำโขงตอนล่างได้แสดงข้อกังวลเกี่ยวกับ
ภัยคุกคามจากเขื่อนไซยะบุรีและเขื่อนอื่น ๆ ในแม่น้ำโขงสายหลัก
โดยเฉพาะผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหารของประชาชนหลายล้านคน
และความสมบูรณ์ทางนิเวศวิทยาของแม่น้ำโขง
“เรายังไม่มีข้อมูลที่
ชัดเจนว่าผลกระทบจากเขื่อนไซยะบุรีที่มีต่อความเป็นอยู่และความ
มั่นคงด้านอาหารของประชาชนในลุ่มแม่น้ำโขงจะกว้างไกลและรุนแรงแค่ ไหน” Ms.
Lam Thi Thu Suu ผู้ประสานงานเครือข่ายแม่น้ำเวียดนาม (Vietnam Rivers
Network) และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสังคมและการพัฒนา (Centre for Social
Research and Development - CSRD) เวียดนาม กล่าว “ในฐานะ
ที่เป็นสายน้ำร่วมกัน
อนาคตของเราจึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐบาลในภูมิภาคที่จะ
ต้องแก้ปัญหาเขื่อนไซยะบุรีทันที ก่อนที่จะสายเกินไป”
ในระหว่างการลง พื้นที่แม่น้ำโขงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว International
Rivers พบว่าโครงการเขื่อนอื่นๆ
บนแม่น้ำโขงสายหลักของลาวกำลังเดินหน้าไปเช่นกัน
ในพื้นที่สร้างเขื่อนปากแบง
ซึ่งยังไม่เข้าสู่กระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าของเอ็มอาร์ซี
ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า โครงการเขื่อนปากแบงมีกำหนดเริ่มดำเนินการในช่วง 2-12
เดือนข้างหน้า โดยเริ่มจากการก่อสร้างถนนสู่หัวงานเขื่อน
ชาวบ้านยังบอกอีกว่า
บริษัทจากจีนได้มาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเขื่อนปากลายและเขื่อนสานะ
คามเมื่อเร็ว ๆ นี้
เมื่อเดือนกันยายนที่แล้ว International Rivers พบ
ว่าเริ่มมีการดำเนินงานเกิดขึ้นที่ พื้นที่สร้างเขื่อนดอนสะหง
โดยมีการระเบิดแก่งหินสองแห่งเพื่อทำเป็นทางปลาผ่าน การประชุมคณะมนตรีแม่
น้ำโขงครั้งที่ 19 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 มกราคม ณ หลวงพระบาง
ประเทศลาว
แหล่งทุนระหว่างประเทศที่ให้ทุนแก่เอ็มอาร์ซีจะแถลงข่าวในระหว่างการประชุม
ด้วย
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น