ด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละของแฟนเพลงทั้ง 2 คน เขาได้สร้างเวปไซต์ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า The Great Rodriguez Hunt เพื่อตามหาร็อด..และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น
โดย Anthony Chai
ถ้าพูดถึงนักร้องที่ชื่อว่า ซิกซ์โตร์ รอดดริกัซ (Sixto Rodriguez) ท่านผู้อ่านส่วนใหญ่คงจะไม่รู้จักชื่อนี้
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะว่าเมื่อ 40 ปี
ที่แล้ว รอดดริกัซ ลูกชาวแม็กซิกัน อาศัยอยู่ในแหล่งสลัมของเมืองดีทรอยส์
มลรัฐมิชิแกน เป็นนักร้องนักแต่งเพลงที่มีผลงานอัลบั้มออกมา 2 ชุด คือ Cold fact และ Coming from reality แต่ขายไม่ได้ถึง 10 แผ่น
บริษัท
ที่ทำสัญญาผลิตแผ่นเสียงจึงได้ยกเลิกสัญญาว่าจ้างเขา รอดดริกัซ
จึงต้องยกเลิกความตั้งใจที่จะเป็นนักร้อง
ความฝันที่จะเป็นร๊อกสตาร์ของเขาจึงหมดไป
เขาจึงจำเป็นจะต้องหาเลี้ยงชีพและเลี้ยงลูกสาวอีก 3 คน เพื่อประทังชีวิต เช่น เป็นกรรมกรแบกหาม ช่างซ่อมหลังคา หรือพูดอีกนัยหนึ่งทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด
แต่หารู้ไม่ว่าแผ่นเสียงทั้ง 2 แผ่นของเขานั้น กลับเป็นที่นิยมและโด่งดังมากในประเทศอัฟริกาใต้ เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เนื่องจากในสถานการณ์ในขณะนั้น ประชาชนหนุ่มสาวในประเทศอัฟริกาใต้ ได้มีการต่อสู้กับเผด็จการ นโยบายอาพาเต้ ซึ่งในเนื้อหาของเพลงเป็นที่โดนใจและเป็นแรงบันดาลใจให้หนุ่มสาวเหล่านั้นต่อสู้กับเผด็จการ และเขาก็ไม่เคยได้รับค่าตอบแทนลิขสิทธิ์เพลงของเขาเลย
บรรดาแฟนเพลงของรอดดริกัซ ต่างกล่าวว่า เพลงเขานั้นเทียบเท่า หรือดีกว่างานเพลงของ Bob Dylan หรือ Elvis เสียอีก
ที่น่าเสียดายที่เขาไม่ทราบว่าเขาได้มีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศอัฟริกาใต้ รวมทั้ง ซิมบับเว (Zimbabwe)ประเทศโรนีเชีย (Rhonesia) นิวซีแลนด์ (New Zealand) และออสเตรเลีย(Australia)ซึ่งขณะนั้นประชาชนก็ทำการต่อสู้ปลดปล่อยจากเผด็จการคนกลุ่มน้อยที่ปกครองคนส่วนใหญ่ของประเทศ
จนกระทั่งวันหนึ่งมีแฟนเพลงพันธุ์แท้ ของรอดดริกัซจากประเทศอัฟริกาใต้ 2 คน คือ สตีเฟน ซีเกอร์แมน(Mr.Stephen Segerman ) เจ้าของร้านจำหน่ายแผ่นเสียง และ เครก บาร์โธโลมิว สไตรด้อม( Mr.Craig Bartholomew Strydom)แฟนเพลงผู้คลั่งไคล้ในผลงานของเขา ได้พยายามค้นหานักร้องที่เขาชื่นชอบว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า
จาก
คำเล่าลือจากแหล่งข่าวต่างๆ เช่น กล่าวอ้างว่า รอดได้ฆ่าตัวตายไปนานแล้ว
หรือบางข่าวก็กล่าวว่า เขาติดยาเสพติดและได้เสียชีวิตไปแล้ว
และ
ที่น่าตกใจกับข่าวลืออีกข่าวหนึ่งคือ กล่าวว่ารอดได้ทำการฆ่าตัวตาย
โดยใช้น้ำมันราดตัวเองในขณะทำการแสดงบนเวที แต่ข่าวลือต่างๆ
นั้นก็เป็นเพียงข่าวลือ...
ด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละของแฟนเพลงทั้ง 2 คน เขาได้สร้างเวปไซด์ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า The Great Rodriguez Hunt เพื่อตามหารอด..
และ
แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น
เมื่อลูกสาวคนหนึ่งของรอดได้พบเวปไซด์นี้โดยบังเอิญ
และได้ทำการติดต่อกลับไปยังเจ้าของเวปไซด์และแจ้งข่าวว่า
คุณพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่
และได้เปิดเผยว่ารอดมีสถานความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก ยังคงมีอาชีพเป็นกรรมกร
แต่ตัวรอดก็ภูมิใจในวิถีชีวิตที่ซื่อสัตย์สุจริต
เมื่อ
เจ้าของเวปไซด์ได้ทราบข่าวก็ดีใจเป็นอย่างมาก
และได้ทำการติดต่อและบินไปหารอดถึงดีทรอยส์ และก็บอกกับรอดเป็นครั้งแรกว่า
ผลงานเพลงของรอดเป็นเพลงที่ดีที่สุด
เพราะเป็นเพลงที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการต่อต้านนโยบายเหยียดผิว อาพาเต้
และต่อต้านคนกลุ่มน้อยที่ปกครองคนส่วนใหญ่ของประเทศอัฟริกาใต้
ใน
ที่สุด เขาทั้งสองได้ทำการติดต่อและนำรอด
ไปยังประเทศอัฟริกาใต้และจัดคอนเสิร์ตให้แก่เขาเป็นครั้งแรกอย่างสมศักด์ศรี
หลังจากนั้นรอดได้เดินทางกลับบ้านที่ดีทรอยส์
และใช้ชีวิตเหมือนเช่นดังเดิม
และเป็นที่น่าประหลาดใจที่ข่าวคราวของเขาไม่ได้รับความสนใจจากอุตสาหกรรมเพลงของอเมริกาแม้แต่น้อย
ชีวิตของรอด เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อ มาลิค เบนจเลา (Mr.Malik Bendjellou)นัก
สร้างหนังสารคดีจากสวีเดน ได้เดินทางไปอัฟริกาใต้และได้พบเรื่องราวของรอด
จึงเกิดความสนใจเรื่องราวของเขาเป็นอย่างมาก
และต้องการนำเรื่องราวของรอดมาสร้างเป็นภาพยนต์สารคดี
มา
ลิคแทบจะไม่เชื่อเลยว่าบุคคลที่มีความสามารถอย่างรอด
จะไม่ได้รับความสนใจจากผู้ผลิตแผ่นเสียงจากอเมริกา
มาลิคได้ใช้เวลาในการสร้างภาพยนต์สารคดีเกี่ยวกับรอด ถึง 4 ปี จนทุนทรัพย์ของเขาเกือบจะหมดสิ้น
และภาพยนต์เรื่องนี้ ได้รับการโหวตให้เป็นภาพยนต์สารคดีดีเด่น (Documentary Audience Award) และหลังจากนั้นภาพยนต์เรื่องนี้ได้ส่งเข้าประกวดในเทศกาลภาพยต์ในประเทศอื่นๆ และได้รับรางวัลอีกหลายรางวัล
ถึงวันนี้... รอด ได้มีอายุปาเข้าไปถึง 70 ปีแล้ว เขากล่าวว่า “ผมเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ถ้าไม่มีแฟนเพลงจากอัฟริกาใต้ ผมก็ไม่มีวันนี้” ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาถึง 40 ปี กว่าจะรู้ว่างานเพลงของเขาได้รับความนิยมเทียบเท่า Bob Dylan, Donovan, Elvis และThe Beatles แต่
เขาก็ไม่เสียใจ เขากล่าวว่า “ผมก็จะทำหน้าที่ต่อไป
และถือว่าถึงจะช้าไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่มีโอกาสเลย
ผมยังรักในเสียงเพลงและงานเพลงของผม”
นโยบาย
เหยียดผิว อาพาเต้ ของประเทศอัฟริกาใต้ ได้รับการประนามจากประเทศต่างๆ
ทั่วโลก และผลงานเพลงของรอด
ในหลายเพลงก็มีส่วนสำคัญในการที่ทำให้ประเทศอัฟริกาใต้ต้องยกเลิกนโยบาย
เหยียดผิวลงในที่สุด และส่งผลให้มีการเลือกตั้งใหม่ จนทำให้แมนดาล่า (Nelson Mandela)ได้เป็นประธานาธิบดีคนดำคนแรกของประเทศอัฟริกาใต้
เหตุการณ์ ดังกล่าวข้างต้นที่ได้เล่ามา ดูแล้วก็คล้ายกับเหตุการณ์ปัจจุบันในเมืองไทยของเรา ที่เผด็จการชนกลุ่มน้อยปกครองคนส่วนใหญ่ของประเทศ จำนวนคนน้อยกว่า ร้อยละ 1 ปกครองคนจำนวน 65 ล้านคน
ผล
งานเพลงของรอดดริกัซ
น่าจะใช้ได้กับเหตุการณ์ในปัจจุบันของประเทศไทยได้ดี
เพลงที่โด่งดังและเข้ากับเหตุการณ์ในประเทศไทยได้ ได้แก่เพลงRich Folk Hoax, Crucify Your Mind, Cause, Establish Bluesและ Sugar Man และ
รอดยังมีผลงานเพลงอีกหลายเพลง ที่มีความไพเราะและมีความหมายลึกซึ้ง
ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย
และท่านอาจจะไม่เชื่อหูของตัวเองว่า ทำไมเพลงเพราะๆ อย่างนี้ จึงได้หลุดรอดไปจากนักฟังเพลงชาวอเมริกันไปถึง 40 ปี
เนื่องจากภาพยนต์สารคดีเรื่อง Searching For Sugar Man ทำ
ให้รอดดริกัซ ได้รับการเรียกร้องจากแฟนภาพยนต์ ส่งผลให้รอดดริกัซ
ต้องเดินสายเล่นคอนเสิร์ต ไปเกือบทุกประเทศในยุโรป
และเช่นเดียวกับหลายประเทศในเอเซีย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน
ต่างก็ให้ความสนใจและรอคอยการเดินทางไปเปิดการแสดงเช่นเดียวกัน
แม้กระทั่งมหากรรมการแจกรางวัลทางดนตรีของGrammy Awards ใน U.S.A. ที่จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 จะอุทิศเวลาส่วนหนึ่งเสนอผลงานของรอดดริกัซ ในครั้งนี้ด้วย
และในงานแจกรางวัลภาพยนต์ออสก้าร์ แหล่งข่าวแจ้งว่า ภาพยนต์สารดีเรื่อง Searching for Sugar Man มีโอกาสได้รับรางวัลภาพยนต์ยอดเยี่ยม สาขาภาพยนต์สารคดี
ภาพยนต์เรื่อง Searching For Sugar Man ได้เปิดฉายแล้วทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ และรอคอยการไปพิสูจน์จากท่านว่า “ตายแล้วเกิดใหม่” มีจริง
และปาฏิหารย์แห่งชีวิตก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน.ติดต่อเจ้าของบทความ (E-mail : achaiusa@gmail.com)
*************
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:Searching for Sugar Man is Critics' Choice
*************
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:Searching for Sugar Man is Critics' Choice
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น