‘สุภิญญา’ สงวนความเห็น
เผยติดใจให้ช่องสาธารณะรายเดิมโดยยังไม่มีเกณฑ์บิวตี้คอนเทสต์
หลังมติบอร์ดกระจายเสียง กสทช.อนุญาต
กองทัพบก-อสมท.-กรมประชาสัมพันธ์-ThaiPBS ทำโครงข่ายทีวีดิจิตอล ระยะเวลา
15 ปี แลกคืนคลื่นฯ ใน 5 ปี
17 มิ.ย.56 - ที่ประชุม คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์
หรือ กสท. มีมติอนุญาตให้ กองทัพบก สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ช่อง 5),
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ (ช่อง 9),
กรมประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง 11)
และองค์การแพร่ภาพและกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.)
สถานีโทรทัศน์ทีวีไทย (ไทยพีบีเอส) เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล
หรือการประกอบกิจการโทรทัศน์สำหรับการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์
ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (Multiplex: MUX)
ในระยะเวลา 15 ปี โดยครั้งนี้ยังไม่ได้พิจารณาลงมติเรื่องราคา และทั้ง 4
ราย จะต้องทำแผนการลงทุนและขยายโครงข่ายร่วมกันเสนอเข้ามาอีกรอบ
นาง
สาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ชี้แจงเพิ่มเติม หลังที่ประชุม
กสท.ว่า เหตุผลที่ตัดสินใจให้ทั้ง 4 รายเดิมได้ใช้สิทธิ์ทำตรงนี้
เพราะส่วนหนึ่งทั้ง 4
รายเดิมมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นต้นทุนเดิมมาก่อนแล้ว อาทิ เสา อุปกรณ์
และความชำนาญ รวมถึง ทั้ง 4
รายได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการยินดีในการยอมคืนคลื่นความถี่เดิมที่ถือ
ครองอยู่ภายในระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ กสทช.มีมติ
จึงถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทำให้ระยะเวลาในการคืนคลื่นเร็วกว่าที่ระบุไว้
ในแผนแม่บทฯ จาก 10 ปี ลดเหลือ 5 ปี
สำหรับกรณีสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 ที่จะหมดอายุสัมปทาน พ.ศ.2563
และช่อง 7 หมดอายุสัมปทาน พ.ศ.2565
ยังติดสัญญาสัมปทานอยู่จะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะสามรถใช้เวลาการคืนคลื่น
ให้สั้นลงขึ้นเหมือนทั้ง 4 ช่องนี้ได้อย่างไร
นางสาวสุภิญญา กล่าวด้วยว่า
แม้ส่วนตัวจะเห็นชอบกับการให้ใบอนุญาตโครงข่าย
แต่ได้สงวนความเห็นในการไม่เห็นชอบการพิจารณาความจำเป็นให้รายเดิม อย่าง
ช่อง 11 และ ช่อง 5
ได้รับสิทธิ์การประกอบกิจการโทรทัศน์ประเภทบริการสาธารณะ
ในระหว่างการออกอากาศคู่ขนานอัตโนมัติ โดยที่ยังไม่มีการสร้างเงื่อนไข
หรือหลักเกณฑ์บิวตี้คอนเทสต์ที่ชัดเจนจาก กสทช.
ในการที่จะสามารถเห็นแผนการปรับตัว ปรับผังรายการ หรือแผนการหารายได้
เพื่อเป็นทีวีบริการสาธารณะในอนาคต
นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า ตนเองได้เคยทำสงวนความเห็นและมติในการประชุม
กสท. ครั้ง12/2556 วันจันทร์ที่ 25 มี.ค.56 เรื่อง
แนวทางการอนุญาตให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล
ประเภทกิจการบริการสาธารณะแล้ว
ส่วนความชัดเจนเรื่องมาตรฐานการกำกับราคาของโครงข่ายฯ ได้เสนอให้
กสท.เร่งเปิดเผยข้อมูลกับผู้ที่จะเข้าร่วมประมูล 24 ช่อง
เพื่อความเป็นธรรมของรายใหม่ในการตัดสินใจ
ซึ่งผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีส่วนได้เสียในเรื่องนี้ก็ควรตื่นตัวติดตาม
อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ มติประชุม กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสท.) ครั้งที่ 23/2556 ดังนี้
1. เห็นชอบผลการพิจารณาการตรวจสอบความชอบด้วยสถานะภาพตามกฎหมาย
และความจำเป็นในการถือครองคลื่นความถี่ของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ช่อง
5) กองทัพบก สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ (ช่อง 9) บริษัท อสมท จำกัด
(มหาชน) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง 11) กรมประชาสัมพันธ์
และสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย (ไทยพีบีเอส)
องค์การแพร่ภาพและกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.)
ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาความจำเป็นในการถือครองคลื่นความถี่เสนอ
โดยพิจารณาถึงประโยชน์สาธารณะ ความจำเป็นของการประกอบกิจการ
และการใช้คลื่นความถี่ จึงเห็นควรกำหนดระยะเวลาการถือครองคลื่นความถี่
และการคืนคลื่นความถี่ ดังนี้
1.1 กรณีสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ช่อง
5) กองทัพบก สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ (ช่อง 9) บริษัท อสมท จำกัด
(มหาชน) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง 11) กรมประชาสัมพันธ์
เห็นควรกำหนดระยะเวลาการถือครองคลื่นความถี่เพื่อใช้ในการประกอบกิจการ
โทรทัศน์ภายใต้บทเฉพาะกาลแห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและ
กิจการโทรทัศน์ มาตรา 74 โดยกำหนดให้คืนคลื่นความถี่ตามมาตรา 83 วรรคสาม
แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 ภายใน 5 ปี
นับตั้งแต่วันที่ กสทช. มีมติเห็นชอบการกำหนดระยะการคืนคลื่นความถี่
ตามที่แจ้งความประสงค์ไว้กับคณะกรรมการ
1.1.1 ให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
(ช่อง 5) กองทัพบก
นำเสนอแผนการปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกอบกิจการโทรทัศน์จากรูปแบบเดิมไปสู่
การประกอบกิจการโทรทัศน์ บริการสาธารณะ ประเภทที่สอง ตามมาตรา 10 (1) (ข)
แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ต่อ กสท.
เพื่อพิจารณาภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่มีมติ
โดยแผนดังกล่าวจะต้องมีรายละเอียดของการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 5
ปีนับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาต
1.1.2 ให้สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
(ช่อง 11) กรมประชาสัมพันธ์ ตามข้อ 1.1 (2)
นำเสนอแผนการปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกอบกิจการโทรทัศน์จากรูปแบบเดิมไปสู่
การประกอบกิจการโทรทัศน์ บริการสาธารณะ ประเภทที่สาม ตามมาตรา 10 (3)
แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ต่อ กสท.
เพื่อพิจารณาภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่มีมติ
โดยแผนดังกล่าวจะต้องมีรายละเอียดของการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 5
ปีนับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาต
1.2 กรณีสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย
(ไทยพีบีเอส) องค์การแพร่ภาพและกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.)
เห็นควรกำหนดระยะเวลาการถือครองคลื่นความถี่เพื่อใช้ในการประกอบกิจการ
โทรทัศน์ตามมาตรา 88 และกำหนดให้คืนคลื่นความถี่ตามมาตรา 83 วรรคสาม
แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553
ภายในระยะเวลาการอนุญาตให้ประกอบกิจการและใช้คลื่นความถี่ที่เหลืออยู่
2.
เห็นชอบผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมของการประกอบกิจการโทรทัศน์สำหรับการให้
บริการโครงข่ายโทรทัศน์
ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของกองทัพบก บริษัท อสมท
จำกัด (มหาชน) กรมประชาสัมพันธ์
และองค์การแพร่ภาพและกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.)
และเพื่อประโยชน์ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ใน
ระบบดิจิตอลของประเทศไทย และประโยชน์สาธารณะอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงเห็นควร
2.1 อนุญาตให้กองทัพบก บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กรมประชาสัมพันธ์
และองค์การแพร่ภาพและกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.)
ได้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์
ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล เป็นระยะเวลา 15 ปี
นับตั้งแต่วันที่ กสท.มีมติ
2.2 เห็นสมควรกำหนดรายละเอียดและเงื่อนไขในการอนุญาตเพิ่มเติมเฉพาะรายของผู้ได้รับอนุญาตตามข้อ 2.1 ดังนี้
2.2.1
ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์
สำหรับการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ ภาคผนวก ก และตามประกาศ กสทช. เรื่อง
หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตเพิ่มเติมในส่วนการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์
ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล พ.ศ. 2556 รวมถึงประกาศ
กสทช. อื่นที่เกี่ยวข้อง
2.2.2 ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์
ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลเป็นไปตามหมายเลขช่องความ
ถี่วิทยุสำหรับมัลติเพล็กซ์ และเงื่อนไขที่ กสท. กำหนด
2.2.3
เสนอแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบ แอนะล็อกโดยละเอียดต่อ
กสท. เพื่อให้ความเห็นชอบภายใน 1 ปี
นับตั้งแต่ได้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์
ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล
2.2.4 การขยายโครงข่ายโทรทัศน์
ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล
และการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ให้ปฎิบัติตามที่ กสท. กำหนด
2.2.5
เพื่อให้ประชาชนที่เปลี่ยนมารับบริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลสามารถรับชมช่อง
รายการโทรทัศน์ในระบบแอนะล็อกที่เคยชมอยู่เดิมได้อย่างต่อเนื่อง
ให้ผู้รับใบอนุญาตข้อ 2.1
มีหน้าที่ออกอากาศบริการโทรทัศน์ที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 83 วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ในระบบแอนะล็อก คู่ขนาน
(Simulcast) ตามมติ กสท. ครั้งที่ 6/2556 วาระที่ 4.9 เรื่อง
แนวทางการออกอากาศช่องรายการโทรทัศน์ระบบแอนะล็อกบนโครงข่ายระบบดิจิตอล
โดยให้ออกอากาศบริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลแบบรายละเอียดคมชัดสูง (HD)
จนกว่าจะยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบแอนะล็อก
ทั้งนี้ไม่เกินระยะเวลาที่ กสทช. ได้พิจารณากำหนดเวลาคืนคลื่นไว้ตามข้อ 1
2.3 กรณีที่
กสทช.ปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนแผนความถี่วิทยุสำหรับกิจการโทรทัศน์ภาคพื้น
ดินในระบบดิจิตอล
เพื่อให้มีการใช้งานความถี่อย่างมีประสิทธิภาพหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ผู้ได้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่
ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลตาม 2.1
จะต้องดำเนินการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์โครงข่ายเพื่อให้บริการให้
สามารถใช้งานกับคลื่นความถี่ที่กำหนดในแผนความถี่ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยไม่มีสิทธิเรียกร้องความเสียหายใดๆ จาก กสทช. หรือสำนักงาน กสทช.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น